แหล่งชอปปิ้งสยามพารากอน

อควาเรี่ยมใจกลางกรุงเทพแหล่งชอปปิ้งสยามพารากอน

ใครๆก็คงจะเคยไปเที่ยวสวนสัตว์ธรรมดาธรรมดากันบ้างแล้วคราวนี้เรามาดูสวนสัตว์สำหรับสัตว์น้ำกันบ้างดีกว่าหรือที่เรียกว่าอควาเรียมนั่นเองค่ะใครที่อยากไปสวนสัตว์สำหรับสัตว์น้ำแต่ไม่ต้องการที่จะเดินทางไกลก็แค่ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าไปที่สยามพารากอนแค่ไปที่นี่คุณก็สามารถที่จะพบกับสัตว์น้ำหลายๆนานาชนิดอควาเรียมที่สยามพารากอนแห่งนี้อยู่ที่ชั้นล่างสุดและวันนี้ทางเว็บ rb88  ของเราจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเที่ยวอควาเรียมของฉันค่ะเรามาดูกันว่าจะมีอะไรกันบ้าง

ในอควาเรียมที่สยามพารากอน มาถึงเราก็ต้องทำการซื้อตั๋วให้สำหรับจำนวนคนที่เราจะเข้ามาราคาตั๋วก็ถือว่าไม่แพงมากแล้วก็เรียกได้ว่าไม่ถูกและไม่แพงดังนั้นก็คือราคาปานกลางพอดีพอดีคนซื้อได้หลังจากที่ทำการซื้อตั๋วเข้าอควาเรียมเสร็จเราก็เดินทางเข้าไปในอควาเรียมเลยที่ฉันเห็นในการเดินเข้าไปก็คือเหล้าม้าน้ำตัวเล็กๆทั้งหลายอยู่ในตู้หลายๆตู้หลายๆนานาชนิดวางเรียงรายกันเต็มไปหมด

จนฉันเลือกดูไม่ได้ก็จะเลือกดูอันไหนก่อนดีตัวสวยๆน่ารักๆทั้งนั้นหลังจากที่ฉันดูม้าน้ำครบทุกสายพันธุ์ครบทุกตัวฉันก็เดินต่อไปและพบกับปลาหมึกยักษ์ในตอนแรกฉันมองไม่เห็นแต่อ่านป้ายก็เห็นว่ามันคือตู้ของปลาหมึกยักษ์อยากให้ป้ายังบอกว่าปลาหมึกยักษ์ตัวนี้สามารถอำพรางตัวได้เก่งมากฉันน้องสาวและพ่อแม่ของฉัน

ซึ่งกวาดสายตามองหาปลาหมึกพวกตู้ของปลาหมึกยักษ์เมื่อมองไปสักพักก็พบว่าปลาหมึกยักษ์กำลังแสงตัวอยู่ตรงซากเรือของเล่นนั่นเอง หลังจากที่เราดูการยักจนพอใจแล้วเราก็เดินต่อไป หลังจากนั้นเราก็พบกับตู้ปลาตู้หนึ่งในตอนแรกเราไม่เห็นอะไรแต่เมื่ออ่านป้ายก็เห็นว่าเจ้าของตู้แห่งนี้ก็คือปลายนั่นเองค่ะ

ฉันน้องสาวและครอบครัวของฉันก็กวาดสายตามองหาอีกครั้งและน้องสาวฉันก็ตะโกนขึ้นมาว่าเจอแล้วจากนั้นเราก็หินตาหินอยู่ตรงนั้นกำลังแหวกว่ายอยู่พวกเราชอบใจมากแต่ก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับหินจริงๆหลังจากที่เราดูปลาหินจนพอใจเราก็ไปดูอย่างอื่นต่อนอกจากเราจะเดินดูสัตว์ใต้น้ำนานาชนิดแล้วที่นี่ก็มีกิจกรรมอีกกิจกรรมหนึ่งคือการที่พนักงานแจกให้ตอนซื้อตั๋วให้เราตรงจุดตามชั้นต่างๆของแต่ละโซนเมื่อตอนแสตมป์ครบถ้าโชคดีจะลุ้นได้ของรางวัลกลับมาดูว่าเราจะไรบ้างดีกว่า หลังจากนั้นเมื่อเราเดินมาสักพักเราก็เห็นสะพานมองไปที่สะพานไม้มองไปข้างล่างก็จะพบว่ามีฉลามหลายตัวว่ายอยู่ด้านล่าง

เราตกใจมากจึงรีบพากันเดินต่อไปเมื่อมาถึงก็มีเรื่องให้เราต้องใจอีกครั้งก็คือมีงูอยู่ในตู้เย็นตรงหน้าเราพวกเราตกใจมากหลังจากนั้นเมื่อเดินไปสักพักเราก็พบกับโซนขายกับข้าวแต่ก็ไม่รู้ว่ากับข้าวที่นี่อร่อยไหมนะคะเพราะว่าไม่ได้ชิมกลับมาเข้าเรื่องหลังจากนั้นเมื่อเราเดินต่อไปเราก็พบกับอุโมงค์ซึ่งในอุโมงค์นั้นจะมีฉลามแบบว่าอยู่เต็มไปหมด

ซึ่งจะมีฉลามหลายๆนานาชนิดยกตัวอย่างเช่นฉลามหัวค้อนและฉลามธรรมดาได้ยังมีฉลามอีกหลายสายพันธุ์สำหรับใครที่อยากจะเซฟเงินก็แค่ดูฉลามที่ใต้อุโมงก็ได้ค่ะแต่ถ้าเกิดว่าใครต้องการสัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดกับฉลามมากกว่านั้นก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่จะนั่งเรือตรงที่มีฉลามในวันนั้นเราต้องการที่จะใกล้ชิดกับฉลามฉันขอร้องให้พ่อจ่ายเงินให้เราไปดูสนามอย่างใกล้ชิดซึ่งพ่อก็ตกลงพี่จะจ่ายเงินให้หลังจากนั้นทั้งครอบครัวก็เลยนั่งเรือ

ซึ่งก็พบว่ามีฉลามหลายๆน่าชนิดอยู่ตรงนั้นจะมองไปใจก็กลัวไปแต่ก็รู้สึกสนุกดี และก่อนที่เราจะออกจากอควาเรี่ยมเราก็แวะไปดูโชว์ฉลามคือจะมีพนัะกงานคนหนึ่งเข้าไปในบ่อหรือที่เรียกว่าตู้ฉลามและพนักงานคนนั้นก็ให้อาหารฉลามแบบไม่กลัวเลยสักนิดเวลาที่ฉลามมาใกล้ๆและหลังจากนั้นสุดท้ายเราก็ไปดูแพนกวินที่แสนจะน่ารักเหล่าแพนกวินว่ายน้ำในตุ็ปลายักษ์อย่างมีความสุขพร้อมกับจับปลากินเราได้ดห็นตอนที่แพนกวินคลอดลูกและได้เห็นไข่ของแพนกวินหลังจาดนั้นพวรเราก็กลับบ้านไปพร้อมกับความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ลองไปดูกันนะคะ 

เปิดภาพเมืองภูเก็ตที่แสนว่างเปล่าไร้เงานักท่องเที่ยว

เราเชื่อว่าหลายๆที่ต่างก็พอรู้กันอยู่แล้วว่ามีการปิดเมืองหลายๆเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้วและจังหวัดของภูเก็ตก็เช่นกันที่มีคำสั่งให้ทำการล็อคดาวเพื่อเป็นการปิดเมืองของเมืองภูเก็ตเพราะอย่างที่รู้กันดีว่าจะต้องเป็นการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโคลิค 19โดยจังหวัดภูเก็ตนั้นได้ทำการปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีการถ่ายรูปต่างๆในตอนนี้ซึ่งมองดูแล้วเป็นภาพที่ว่างเปล่าไร้นักท่องเที่ยวออกมาสู่กระแสของโลกโซเชียล

ทำให้น่าสลดใจยิ่งนักเนื่องจากอย่างที่เรารู้กันดีว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เรียกได้ว่าไม่เคยได้หลับได้นอนกันเลยเพราะมีการคืนก็อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตามแต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดที่เราเห็นว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวกันทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้จะเงียบสงบไร้ผู้คนอย่างทุกวันนี้ดูแล้วกลายเป็นเมืองที่เงียบเหงามากเลยแหละ

จากสถานที่ที่เราคุ้นเคยหรือคุณตากันเป็นอย่างดีโดยมีการคึกครื้นอยู่ตลอดเวลากลายเป็นสภาพที่เงียบเหงาไร้ผู้คนดูแล้วน่าหดหู่ใจจริงนะแต่ความสวยงามของมันโดยธรรมชาติของมันนั้นทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วมีความสวยงามแบบเงียบสงบไปอีกแบบหนึ่งในมุมหนึ่งของการถ่ายภาพต่างๆเกี่ยวกับสถานที่ของจังหวัดภูเก็ตที่มีคนคืนในช่วงก่อนที่จะปิดหน้านี้ทำให้ได้เห็นว่าเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านมากทำให้เรียกว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งของประเทศไทยของเรานั่นเอง

ซึ่งมาในขณะนี้รวมแล้วแต่ไม่ต่างอะไรกับสถานที่ล้างเลยก็ว่าได้มองไปรอบข้างบรรยากาศดูแล้ววังเวงชอบกลจากที่คนพลุกพล่านอยู่ๆก็คนก็หายวับไปกับตาการเดินมองดูไปรอบๆทำให้คิดถึงสภาพบรรยากาศเก่าๆที่มีคนพลุกพล่านเหลือเกินเรามองว่าวันนี้มองสิ่งไหนหรือไปแถวไหนก็จะเห็นได้ว่ามันค่อนข้างที่จะน่าใจหายเหมือนกัน

การเดินทางบนท้องถนนนั้นแทบจะไม่มีรถเลยก็ว่าได้เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งประเทศของเราหรือประเทศข้างเคียงของเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นหันไปทางไหนก็เจอแต่นักท่องเที่ยวหรือคนในประเทศเดินกันให้คึกครื้นมีเสียงหัวเราะต่างๆมากมายหรือหันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้คนมาถ่ายรูปเยี่ยมชมกับสถานที่ของเราหวังว่าวันนั้นคงจะมาถึงเร็วๆนี้

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆก็คงไม่ต่างอะไรกับจังหวัดของภูเก็ตนี้ที่เงียบเหงาไปด้วยผู้คนและเอาจริงๆแล้วเราก็ควรทำตามที่มีการประกาศอย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะป้องกันเชื้อโรคให้หมดไปโดยเร็วและหวังว่าสถานที่ต่างๆที่เคยคืนจะกลับมาคืนเร็วๆนี้นะคะ

เศรษฐกิจอย่างนี้ควรไปเที่ยวดีหรือไม่

การไปเที่ยวถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนชนิดหนึ่งและรูปแบบหนึ่งดังนั้นการไปท่องเที่ยวคือได้ว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรสำหรับเศรษฐกิจเหล่านี้แต่เป็นการพักผ่อนหรือคนไทยให้เราได้คลายเครียดนั้นเองจะเห็นได้ว่าคนทั่วไปมักจะมองว่าการไปเที่ยวมักจะเป็นการใช้เงินสะส่วนมาก ดังนั้นหากเจอกับภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ควรจะเก็บเงินไว้จะดีกว่าแต่จะมองว่าในการท่องเที่ยวนั้นก็บางสถานที่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากมายเท่าไหร่นะดังนั้นการไปเที่ยวบริเวณรอบๆใกล้ๆที่เราอยู่นั้นก็ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเช่นเดียวกันไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไกลแม้แต่น้อย

ที่จริงเศรษฐกิจไม่ดีเราก็ควรที่จะเซฟเงินไว้น่าจะดีกว่าแต่ว่าการไปเที่ยวแถวบ้านหรือบริเวณสถานที่ที่เราอยู่นั้นถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเช่นเดียวกันและมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรหากทำให้คุณคลายเครียดได้ก็ควรไปแต่ก็อย่าลืมว่าในช่วงขณะนี้มีเชื้อไวรัสระบาดดังนั้นการไปเที่ยวจึงควรระงับไว้น่าจะดีกว่าถือว่าเป็นการเติมเงินในตัวก็ได้นะ

หลายคนอาจจะบ่นเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวอย่าไปนั่นอยากเป็นหนี้ในเวลาขณะนี้ในใจเศรษฐกิจที่มันแย่ๆและมีโรคระบาดต่างหากดังนั้นใครก็ตามที่คิดอยากจะเที่ยวในขณะนี้หากคุณไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่เป็นไรแต่คุณก็ควรคิดถึงเกี่ยวกับโรคระบาดที่กำลังแพร่กระจายในขณะนี้โดยคุณไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในสถานที่ต่างๆที่ก่อให้เกิดโรคระบาดแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสถานที่บริเวณแถวบ้านของคุณนั้นจะมีแต่โรคระบาดดังนั้นหากคุณไปเที่ยวใกล้ๆแถวนั้นก็ควรที่จะเซ็ตตัวเองโดยการใส่หน้ากากและทำตัวให้สะอาดอยู่ตลอดเวลาหรือล้างมืออยู่ตลอดเวลาเพื่อเป็นการเซฟอย่างใดอย่างหนึ่งแต่ไม่ควรที่จะเดินทางไปไกลหรือยังเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงแต่อย่างใดหรือทหารคุณเป็นบุคคลที่เสียแล้วก็ไม่ควรที่จะออกไปเพื่อที่จะให้คนอื่นได้รับเชื้อโรคจากคุณเช่นกัน

เอาเป็นว่าง่ายๆเลยนะจะคิดแยกแต่ก็อยากเที่ยวก็เที่ยวได้แต่น่าจะต้องดูด้วยว่าสถานที่เหล่านั้นทำให้คุณหรือคนละข้างเดือดร้อนหรือไม่แต่ก็ไม่ควรที่จะเดินทางไปไกลอย่างแน่นอนเพราะว่านอกจากเงินทุนไม่มีแล้วยังเป็นอันตรายต่อการเกิดโรคต่างๆที่กำลังระบาดในขณะนี้อีกด้วยดังนั้นการเที่ยวบริเวณแถวบ้านหรือชมบรรยากาศริมแม่น้ำข้างบ้านก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนะโดยเฉพาะอย่างยิ่งไปในสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆหรือไม่มีผู้คนทุกท่านก็จะเป็นการดีที่สุดดังนั้นการชมบรรยากาศที่ดีที่สุดคือการชมบรรยากาศที่อยู่ที่ไหนก็ได้ที่ทำให้คุณผ่อนคลายได้แต่ก็ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเอง

อยากเที่ยวแต่ไม่มีเงินทำยังไงดี

จะเห็นได้ว่าสำหรับเรื่องเงินนั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญสำหรับวัยรุ่นหรือวัยต่างๆที่ต้องการจะไปท่องเที่ยวซึ่งจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่เก็บเงินแล้วรอไปเที่ยวทีเดียวเพราะมันคงเป็นปัญหาที่คาราคาซังไปอีกนานเลยกว่าแต่ละคนนั้นจะเก็บเงินได้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ยาวนานทำให้การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักไปอย่างแน่นอน

โดยส่วนใหญ่มักจะคิดว่าจะรอเก็บเงินอยู่คงไม่ได้ไปแน่หรืออาจจะได้ไปอีกทีก็ตอนแก่ๆเลยก็ว่าได้ ดังนั้นสำหรับการไปเที่ยวแล้วควรที่จะไปในขณะที่ทำงานอยู่หรือมีกำลังทรัพย์เพียงน้อยนิดก็สามารถไปได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีความต้องการอยากออกเดินทางท่องเที่ยวแต่ก็ยังมีงบไม่น้อยซึ่งจะเห็นได้ว่าการทำงานระหว่างทริปสามารถเป็นการช่วยได้ดีเลยอ่ะโดยถ้างั้นอาจทำประกันไป จะแบ่งเป็นการเที่ยว 1 เดือนทำงาน 1 เดือนแล้วแต่ความสะดวกสำหรับตัวของท่านเองโดยหลักการเหล่านี้เหมาะกับคนที่มีแรงและมีเวลา

การทำงานที่สามารถทำให้คุณท่องเที่ยวได้นั่นก็คืองานฟรีแลนซ์ถ่ายรูปขายนักเขียน Blogger น่ะซึ่งงานเหล่านี้คือเรียกว่าสามารถเดินทางไปด้วยและท่องเที่ยวไปด้วยได้ในระหว่างทางแถมยังเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการท่องเที่ยวนั้นด้วย

การเดินทางท่องเที่ยวในไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินแพงแต่ควรที่จะมีหลักในการท่องเที่ยวมากกว่าสิ่งต่างๆล้วนอยู่ที่การวางแผนหากคุณมีการวางแผนที่ดีการท่องเที่ยวนั้นก็จะเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ไกลและใช้เงิน เพื่อการวางแผนในสถานที่เที่ยวในแต่ละที่นั้นจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนมีการเดินทางการวางแผนที่พักหรือรายจ่ายในการกินต่างๆการคำนวณ หรือเป็นการวางแผนที่ดีมาก่อนจะทำให้คุณประหยัดงบประมาณในการท่องเที่ยวได้เยอะมากมาย

เอาจริงๆแล้วตายไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปนอนโรงแรมระดับ 5 ดาวหรืออะไรก็ตามที่มันราคาแพงเพราะในความเป็นจริงแล้วคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศที่นั่นอย่างเช่นหากคุณไปนอนที่ทะเลคุณก็ไปสัมผัสกับบรรยากาศของทะเลดังนั้นการนอนโรงแรมดังๆหรูหราก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะอยู่บนทะเลซึ่งบรรยากาศมันก็ได้เช่นกันหากคุณมีงบที่น้อยก็ควรเลือกให้พอเหมาะพอควรเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของคุณจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนหลังจัดการท่องเที่ยวนั้นเอง

การกินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหรูหราแต่สำหรับสถานที่เรานั้นหากเรามีการเดินทางไปอันดับแรกก็คงจะต้องไปกินสิ่งของแปลกๆใหม่ๆที่อยู่ตามภูมิภาคเรานั้นแต่ว่าเราสามารถเลือกร้านที่มันราคาย่อมเยาว์ได้และดูจากการโปรโมทของแต่ละสถานที่ก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นคาดคะเนกับงบประมาณในการกินของเราได้ด้วยเช่นกันและสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณท่องเที่ยวโดยไม่บานปลายจัดงบประมาณของคุณมากไปกว่าเดิมสูงนั่นเอง

การเดินทางท่องเที่ยว ที่เกาะพงัน

การเดินทางท่องเที่ยว ที่เกาะพงัน สามารถมอบสิ่งดีๆให้กับคุณหลายอย่าง

ในวันรุ่งเช้าที่ผมได้รับประทานอาหารหลังจากที่กินอาหารที่มานะไทนเรียบร้อยแล้วผมก็ได้มีความรู้สึกว่าอยากไปที่เกาะพงัน ซึ่งมันก็ได้อยู่ห่างไปจากเกาะสมุยไม่มากนักจากนั้นผมได้บอกลาหลิวที่เป็นคนขายทัวร์และได้เดินทางออกจากโรงแรมมานะไทยเพื่อที่จะตรงเข้าสู่เกาะพงันอย่างไร้ที่พักและผมก็ได้เสียค่าเรือให้กับท่าเรือSEA FLOWEP 200บาท

กับการเดินทางไปยังหาดลิ้นเพื่อเดินทางไปสัมผัสกับเกาะพงันในวันที่ไร้ฟูลมูนปาร์ตี้และในระหว่างที่ได้นั่งรอเรือมาผมก็ได้พบกับพี่พรและครอบครัว ซึ่งทุกคนนั้นได้เป็นคนที่เกาะสมุยแต่จะเดินทางไปเที่ยวที่เกาะพงันผมจึงได้พูดคุยกับพี่พรอยู่พักใหญ่บนเรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหาหอยหรือหาปลาจนทำให้การเดินทางจากเกาะสมุยไปเกาะพงันครั้งนี้ของผมผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับบทสนทนาในครั้งนี้ของเราผมแยกกับพี่พรและออกเดินทางต่อ

และเริ่มต้นค้นหา Hostel ในละแวกหาดสิ้นและผมก้ได้พบกับ CUL TURE CLUB BACKPACKER HOSTEL ผมได้ออกมาจาก Hostel เพื่อหาอะไรรองท้องและได้ตรงเข้าสู่หาดสิ้นหาดชื่อดังของเกาะพงันที่ถูกใช้เป็นที่จัดงามฟูลมูนปาร์ตี้ที่โด่งดังของเกาะพงันเมื่อสถานที่แห่งนี้เป็นวันธรรมดาที่ไม่ใช้วันพระจันทร์เต็มดวงหาดลิ้นเหมือนจะเป็นหาดที่ปลีกวิเวกแกจากผู้คนโดยสิ้นเชิงแทบจะไม่น่าเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะมีความเงียบสงบต่างจากสื่อของเกาะพงันที่ผมเคยได้ดูผ่านตามาและหลังจากเล่นกับหมาทะเลอยู่ไม่นานพี่พรก็ส่งรูปหอยมาอวดและส่งรูปพระอาทิตย์ที่ตกดินอีกฟากนึงของหาด

ให้ผมดูว่าสวยงามแค่ไหนต้องขอบคุณเทคโนโลยีของการเดินทางในยุคนี้ที่ทำให้ผมได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินทั้งสองฟากของหาดพร้อมๆกันได้และเมื่อพระอาทิตย์นั้นก็ได้ตกดินลงไปแล้ว ณ หาดลิ้นผมก้ได้กลับไปพูดคุยกับแอมเจ้าของ Hostel ซึ่งเรื่องที่มันน่าแปลกใจในการคุยกับแอมในครั้งนี้คือเราได้เรียนมหาลัยเดียวกัน

และ๕ณะของเรายังอยู่ติดกันอีกด้วยสำหรับในการเดินทางนั้นมักจะมีเรื่องแปลกประหลาดที่จะนำพาให้คนเรานั้นได้โคจรได้มาพบกันได้ในสถานที่อันห่างไกลถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเคยอยู่ไกล้กันมากแค่ไหนก็ตามเราก็ยังสามารถที่จะมาพบเจอกันได้อยู่ดีและผมก็ได้พบว่าในการเดินทางท่องเที่ยวเมื่อเราได้แบกเป็มาเพียงลำพังและก้าวเท้าเข้าสู่โลกใหม่ที่เราไม่รู้จักนั่นคงจะเป็นวันที่เราเปิดใจต่อผู้คนรอบข้างมากที่สุดและในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นวันที่ผู้คนรอบข้างเปิดใจกับคุณมากที่สุดผมไม่สามารถตอบคำถามว่าการท่องเที่ยวคนเดียวน่ากลัวหรือไม่แต่ผมสามารถตอบคำถามได้ว่าการท่องเที่ยวคนเดียวนั้นรู้สึกยังไงเช่นเดียวกับที่คุณสามารถตอบคำถามกับตัวเองได้ว่าการเดินทางในครั้งใหม่ของคุณจะเริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน

อาหารที่ควรไปลองเมื่อไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม

อาหารเวียดนาม หนึ่งในเสน่ห์สำคัญที่กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจที่จะไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนามแห่งนี้ เพราะอาหารเวียดนามเป็นที่รู้จักกันอย่างมากทั้งในเรื่องของการเป็นอาหารสุขภาพและมีรสชาติอร่อย ด้วยส่วนประกอบที่หลากหลายของผักสมุนไพร ซึ่งสามารถนำมาจับคู่ทานได้กับทั้งข้าวสวยร้อนๆ บะหมี่หอมๆ ซีฟู๊ดส์สดๆ เนื้อหมูและเนื้อวัว ก็เข้ากันได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ โดยอาหารเวียดนามก็สามารถหาทานได้ง่ายและหลากหลายระดับอย่างมากทั้งตั้งแต่ตามท้องถนน ร้านอาหารทั่วไป จนไปถึงภัตตาคารในโรงแรมหรู 5 ดาว

แล้วอาหารอะไรบ้างล่ะที่ต้องกินให้ได้เมื่อไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม  แน่นอนว่าเราก็มีมาแนะนำค่ะซึ่งอาหารเหล่านั้นมีดังนี้

  1. เฝอ (Pho) อาหารจานหลักยอดนิยมที่เป็นดั่งลายเซ็นของประเทศเวียดนาม เพราะสามารถกินได้ทุกมื้อเลยไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น โดยเฝอนั้นคล้ายๆกับก๋วยเตี๋ยวในไทยเรานี่ล่ะค่ะ คือเป็นเส้นบะหมี่สีขาวทำจากแป้งข้าวเจ้า กับ น้ำซุปสีใส กินคู่กับเนื้อวัวและผัก เช่น หัวหอม ต้นหอม คึ่นฉ่าย ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว โหระพา สะระแหน่ ผักแพว เป็นอาหารที่ทานได้ง่ายๆ คล่องคอ แถมสุขภาพดีอีกด้วย สามารถหาทานได้ง่ายตามท้องถนนเลยล่ะค่ะ
  2. บั๋นหมี่ (Banh Mi) หรือ แซนวิชเวียดนาม ถือเป็นอาหารเช้าที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทานง่ายและพกพาสะดวกอีกด้วย โดยบั๋นหมี่คือขนมปังฝรั่งเศสที่นำมาใส่ไส้สไตล์เวียดนาม เช่น ผักดอง หัวหอม เนย ซีอิ๊วขาว พริก ผักชี พริกไทย ผักชีลาว ในส่วนของตัวไส้ที่เป็นเนื้อสัตว์นั้นก็มีหลากหลายมากขึ้นกับร้านค้าที่ขายค่ะ มีทั้ง หมูสามชั้นย่าง ซี่โครงหมูย่าง ปลาทอดขมิ้น ไส้กรอกต้ม ไก่ตุ๋น และฯลฯ
  3. บั๊ญแส่ว (Banh Xeo) หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าขนมเบื้องญวนนี่ล่ะค่ะ  โดยมีลักษณะคล้ายแพนเค้กแต่ตัวแป้งจะบางกว่าและกรอบกว่าค่ะ บั๊ญแส่วทำจากแป้งข้าวเจ้า กะทิ และขมิ้น ในส่วนของไส้นั้นสามารถไส้ได้หลายอย่างเลยทั้งวุ้นเส้น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง หัวหอมใหญ่ ถั่วงอก และเห็ด ซึ่งสามารถหาซื้อบั๊ญแส่วมาทานได้ตามร้านแผงลอยข้างถนน ตลาดท้องถิ่น หรือตามร้านอาหารก็มีค่ะ
  4. ก๋อยกวั่น (Goi Cuon) ก็คือ เปาะเปี๊ยะสดเวียดนามค่ะ ถือเป็นอาหารพื้นบ้านและส่วนใหญ่มักจะรับประทานกันเป็นมื้อกลางวันในช่วงฤดูร้อนของเวียดนาม ไส้ก็มักจะเป็นพวกเวียดนาม เนื้อหมูสไลด์ กุ้ง โหระพา และผักกาดหอม นำมาม้วนๆด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะสด จิ้มกับซอสที่ทำมาจากพริกป่นและถั่วลิสง ถือเป็นอีกอาหารสุขภาพที่ใครหลายๆคนชอบทานกันค่ะ 

 

สนับสนุนโดย  แทงบอลออนไลน์2020

การเดินทางท่องเที่ยว เบตง

การเดินทางท่องเที่ยว เบตง สามจังหวัดชายแดนใต้

ใน365วันมนุษย์เราจะสามารถพบเจอกับเรื่องที่เหนือความคาดหมายเป็นจำนวนศูนย์ครั้งภายใต้เซฟโซนของตนเองโลกใบนอกที่เราไม่คุ้นเคยนั้นมักจะมอบเกมใหม่ๆให้กับเราเสมอเช่นเดียวกับการเดินทางของผมที่โยนบุคคลที่เหนือความคาดหมายมาร่วมเดินทางไปในทริปนี้พร้อมกับผมและนั่น เป็นนาทีที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ เร แมคโดนัลด์ นักเดินทางรุ่นพี่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เราตั้งต้นกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพงการเดินทางร่วมกันของเราในทริปนี้มีจุดหมายที่อยู่สุดขอบแดนใต้ของประเทศไทย เบตง อำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย

ณ จังหวัดยะลาสถานที่ ที่ขึ้นชื่อด้วยเรื่องของความสวยงามแต่กลับถูกแฝงไปด้วยความกังวลของผู้คนที่จะเดินทางเข้าไปยังในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ เบตง  ไม่ได้เผยโฉมให้กับนักท่องเที่ยวมากอย่างที่ควรจะเป็นแต่สำหรับผม เบตง นั้นเป็นสถานที่ ที่ผมต้องการที่จะเข้าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิตเสมอเหตุการไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนที่ต้องการมาสัมผัสยัง เบตง มีคำถามถึงเรื่องการเดินทางและความปลอดภัยและผมก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่สงสัยในเรื่องนี้

และการเดินทางเท่านั้นที่จะให้คำตอบกับผมในเรื่องนี้ได้การเดินทางด้วยรถไฟเป็นสิ่งที่โปรดปรานของ พี่เร และผมตอนจงรอบรถไฟนั้น พี่เร อยากได้ขบวนที่ยังมีตู้เสบียงอยู่ พี่เรยังได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อตู้เสบียงในอดีตของเขาการผัดอาหารที่หอฟุ้งไปทั่วโบกี้ผู้คน ที่อาศัยอยู่บนรถไฟอย่างเกือบจะถาวรและความคึกคักของตู้เสบียงในอดีตแต่ในปัจจุบันนี้ถึงตู้เสบียงจะมีไม่มากเหมือนในอดีตและความคึกคักนั้นถูกเปลี่ยนเป็นความคลากสสิคแทน

แต่การเดินทางด้วยรถไฟนั้นก็ยังคงตั้งมนต์เสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองเสมอทำให้สิบหรือยี่สิบชั่วโมงบนรถไฟผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวเราเดินทางมาถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่สิบแปดชั่วโมงกับการเดินทางที่ผ่านมา ซึ่งพี่เร ได้แนะนำลงที่หาดใหญ่ก่อนเพราะหาดใหญ่เป็นจุดที่สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้อย่างหลากหลาย

แต่พอได้รับคำแนะนำในการเดินทางของชาวบ้านในละแวกพวกเราก็โดนขึ้นรถไฟต่อเพื่อตรงไปยังจังหวัดยะลาThe plan is no plan คำเท่ๆที่พี่เรมักจะพูดแล้วหันมาขำกับผมการเดินทางของพี่เรกับผมในครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าเรามีอัไรเหมือนกันบางอย่างนั่นคือการที่เราชอบเสพอะไรที่ไม่มีแบบแผนมาถึงยังจุดหมายไหนก็หาทางไปเรื่อยๆและเมื่อเราได้เดินทางมาถึงจังหวัดยะลา

 

สนับสนุนโดย  nowbet

ท่องเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน

ท่องเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน

ในคืนนี้คงเป็นเพียงหนึ่งคืนที่ผู้คนจะมองเข้ามาและพบเพียงครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อดาวหาแฮลลีย์โคจรมายังโลกอีกครั้งคนที่ผมจะนึกถึงเป็นคนแรกก็คงจะเป็นพวกท่าน  ในเช้ามืดของวันรุ่งขึ้นคุณลุงและคุณป้าต้องการที่จะไปส่งผมยังจุดหมายต่อไปของผมแต่ในเวลาเช้ามืดแบบนี้ผมเลือกที่จะโบกรถด้วยตัวเองโดยเลือกที่จะให้ท่านทั้งสองได้นอนกันอย่างเต็มอิ่มจะเหมาะกว่าด้วยเวลาเพียงไม่นานกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็รับผมขึ้นมาบนรถโอกาสมีอยู่เสมอในเส้นทางของชีวิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการสร้างโอกาสของตัวเรามากกว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

กิ่วแม่ปาน เป็นเป้าหมายเดียกันของพวกเราในวันนี้ เรื่องที่สวยงามอย่างหนึ่งในการเดินทางจากแค่การโบกรถ เพื่อที่จะขึ้นมายัง กิ่วแม่ปาน และสิ่งที่ผมได้รับก็คือน้องๆที่ให้ผมอาศัยขึ้นมาบนรถนี้กลับชวนผมเที่ยวด้วยกัน นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทาง ที่ขาดไม่ได้ เมื่อเข้ามายังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน ผมก็ได้สัมผัสความสวยงามของป่าดิบชื้นแห่งนี้เป็นครั้งแรก

ระหว่างทางจะพยเห็นมอสที่ขึ้นตามต้นเฟิร์นนาพรรณกับบรรยากาศที่เย็นของดอยอินทนนท์แห่งนี้ กิ่วแม่ปานจึงเปนสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์หลายคนเส้นทางการเดินทางเป็นวง3กิโลเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ยาวจนเกินไป ผมนึกเสียดายที่คุณกับป้าไม่ได้มาเดินด้วยกันแต่ด้วยวัยเกษีนณของลุงกับข้อเข่าที่ไม่ดีแล้วการเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอากไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นัก ในป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยสายหมอกยามเช้าความเขียวขจีของมอสที่นี่และพรรณไม้เลื้อยตามต้นไม้ต่างๆทำให้สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเมืองในเทพนิยายก็ไม่ปาน

กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีกลุ่มคนทุกรูปแบบเดินทางมาท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวรวมไปถึงผู้สูงอายุทำให้เส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้กลายเป็นเส้นทางที่ครึกครื้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้คนแต่ก็ไม่เต็มไปด้วยเสียงดังโหวกเหวกจนเสียความสงบของธรรมชาติไปในครั้งแรกที่ผมได้ร็จัดกับดอยอินทนนท์สิ่งแรกที่ได้ดึงดูดผมมายังสถานที่แห่งนี้คือการมียอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้มีความสูงเกือบ2600เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าอยากเดินทางมากท่องเที่ยวที่นี่สักครั้งในชีวิตแต่เมื่อเดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งนี้แล้วผมก็เกือลจะลืมจุดสำคัญข้อนั้นไปเหมือนกันด้วยความสวยงามของเฉพาะตัวที่นี่และอากาศที่เย็นของเมืองเหนือตัวเลขที่สูงของระดับน้ำทะเลที่นี่จึงเป็นแค่ส่วนประกอบส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งสำหรับผม

 

สนับสนุนมาจาก  dewabet

ท่องเที่ยวเขาช้างเผือก

ท่องเที่ยว ที่เขาสูง เขาช้างเผือก

 ในการเดินขึ้นเขาช้างเผือกนี้บทสนทนาก็คงจะไม่พ้นสันคมมีดสันเขาที่สวยงามและหวาดเสียวไปพร้อมกันเป็นจุดไฮไลท์ของนักพิชิตเขาที่นี่และตัวผมเองด้วยเมื่อเดินมาได้สักระยะเจ้าหน้าก็ก็ได้ทำการชี้จุดตั้งแคมป์ที่ไกลลิบให้ผมดูกลุ่มต้นไม้กลางหุบเขาจุดนั้นคือจุดตั้งแคมป์ในคืนนี้เมื่อเดินมาถึงกลางทางหลายคนหยุดพักกินมื้อเที่ยงที่นี่รวมทั้งตัวผมด้วยระหว่างนั่งกินข้าวผมก็ได้มองเห็นสันคมมีดอยู่ไกลๆแต่ก็คงจะไม่ไกลเกิดกว่าที่ผมจะไปถึงได้แน่หลังจากท้องอิ่มผมก็ลุกแล้ว

เริ่มเดินทางต่อและผมก็ได้นึกถึงวันก่อนที่ผมจะได้เริ่มเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในวันที่ผมเลือนฟิดเฟซบุ๊กและผมก็พบว่าผมไม่ได้ต้องการร็เรื่องราวอะไรในนี้อย่างสนใจเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วและผมก็เกิดคำถามกับตัวเองว่าโลกของเรานั้นมีอะไรให้ทำแค่นี้เองหรอ ซึ่งแน่นอนคำตอบคือไม่แค่การเริ่มต้นที่จะลุกไปทำอะไรสักอย่างครั้งแรกที่มันผิดธรรมชาติของตัวเองมันมักจะไม่ใช่เรื่องที่เราคิดจะทำทุกวันแต่บังเอิญที่นั่นเป็นวันแรกของผมที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเลยเถิดจนมาถึงวันนี้และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดในวันไหนหลังจากนั่งพักชมเขาลูกสุดท้ายอยู่นาน

ก็ได้เวลาที่ผมจะลุกขึ้นมาเพื่อที่จะก้าวข้ามมันไปพอได้มาอยู่จุดที่ราบสูงของภูเขาแล้วถึงแดดจะเผาแรงแค่ไหนแต่ก็ยังได้ลมเหนือจากภูเขาหลังจากเดินทางมา5ชั่วโมงผมก็มาถึงจุดตั้งแคมป์ในวันนี้ซักทีเจ้าหน้าที่ให้เราพักผ่อนเกือบ2ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางไปยังสันคมมีดจุดที่สูงที่สุดและอันตรายที่สุดในเขาแห่งนี้สำหรับในการเดินขึ้นไปบนเขานั้นที่กำลังจะเดินไปที่สันคมมีดซึ่งมันก็มีความเสี่ยงอันตรายอยู่สมควรซึ่งเพราะเพียงแค่ก้าวผิดเพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งมันอาจจะหมายถึงชีวิตจากการที่ได้เข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่แล้วได้พบว่ามีปนะมาณ10%ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการที่จะขึ้นไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาช้างเผือก

โดยที่จะผ่านสันคมมีดแห่งนี้เมื่อผมได้ก้าวมาเยียบที่สันคมมีดด้วยตัวเองแล้วผมก็รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆที่มายังเขาลูกนี้เพราะสำหรับผมแล้วสันคมมีดเปรียบเสมือนลูกโดดของเขาช้างเผือกเป็นจุดที่สลัดความเหนื่อยออกแทนที่ด้วยความหวาดเสี่ยวและตื่นเต้นเมื่อผ่านสันคมมีดมาได้อย่างโล่งอกผมก็พบว่ายังต้องขึ้นเขาลูกเล็กๆอีกสองลูกความเหนื่อยกลับมาแทนที่ความหวาดเสี่ยวอีกครั้งแต่ความเหนื่อยครั้งนี้เป็นความเหนื่อยที่ใครๆก็สามารถผ่านมันไปได้เพราะจุดหมายปลายทางจุดยอดเขาที่สูงที่สุดของเขาช้างเผือก

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sagame

การเดินทางท่องเที่ยวพิชิตขึ้น ดอยขุนตาล

การเดินทางคือ อะไร มันคือการค้นหาตัวตน

หรือในการพบเจอเพื่อนใหม่ๆคือสถานที่ใหม่ๆ คือความรู้สึกใหม่ คือโลกใหม่เราได้ตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้มากมายคำตอบจะไม่สำคัญอะไรเลยถ้าคุณไม่ได้ออกไปสัมผัสมันด้วยตัวคุณเองผมอยู๋ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงสถานที่ซึ่งบรรจบการเดินทางของหลายๆคนเข้าด้วยกันและการเดินทางขอผมในครั้งนี้ก็มาบรรจบกับเพื่อนร่วมทาง ซึ่งมีทั้งคนที่ผมรู้จักและคนที่ผมกำลังจะรู้จักเราเดินทางด้วยตู้รถไฟชั้นสองเป็นครั้งแรกกับการขึ้นรถไฟตู้นอนของผม ดอยขุนตาล เป็นปลายทางที่เหมือนกันของพวกเราชาวต่างชาติดูเหมือนจะมีมากพอๆกับคนไทยภาษาที่ใช้สื่อสารกันในรถเลยดูผสมปนเปกันไปหมดในรถไฟค่อนข้างสะดวกสบายกว่าที่ผมคิดไว้มากมีเมนูสำหรับการสั่งอาหารเจ้าหน้าที่ที่อำนวยความสะดวกให้คุณและการเดินทางสิบเอ็ดชั่วโมงนี้

ห้องน้ำถือว่าใช้ได้เลยหลังจากที่รถไฟจอดที่สถานีอยุธยาเพื่อนร่วมทางคนสุดท้ายของผมเราก็มากันครบบทสนทนาเกิดขึ้นมากมายในขบวนรถไฟความนิ่งและแอร์ที่เย็นฉ่ำของรถไฟทำให้ผมข้ามไปวันใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น ดอยขุนตาล ตั้งอยู่ที่เทือกเขาระหว่างจังหวัดลำปางและจังหวัดลำพูนความน่าสนใจของ ดอยขุนตาล นี้คือที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติเพียงที่เดียวที่คุณสามารถนั่งรถไฟไปถึงและเดินขึ้นดอยกันได้เลยก่อนถึงสถานีขุนตาลรถไฟจะผ่านอุโมงค์ที่ยาวที่สุดของประเทศไทยเป็นอุโมงค์รถไฟที่เก่าแก่

ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2450 ชาวเยรมันเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างทั้งหมดโดยใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น11ปี ถ้ามองด้วยตาเปล่าผมไม่เห็นปลายทางของอุโมงค์นี้เลยหมอกที่ลงหนากับความสงบของสถานีรถไปขุนตาลก็มีเจ้าหมาตัวดำตัวนึงเข้ามาทำความร็จักกับผมมันดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนกับสัตว์ที่พึ่งพบกันแต่เจ้าดำจะทำให้ผมแปลกใจตลอดการเดินทางของทริปนี้อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลไม่ใช่ดออยที่จะมีคนมาท่องเที่ยวมากนักยิ่งวันธรรมดาที่ผมมาวันนี้ทำให้รู้ว่ามีแค่พวกเราแค่5คนที่กำลังเดินขึ้นไปบนดอย

พวกเรามีแผนจะพิชิตดอยนี้ทั้งหมด4จุดยุทธศษสตร์ ซึ่งเรียกสั้นๆว่าเป็น ย.1ถึงย.4ตั้งแต่เราออกจากสถานีรถไฟขุนตาลมาเจ้าดำก็คอยบอแกทางเราตลอดเวลา ซึ่งทำงานได้ไมท่แพ้เจ้าหน้าที่เลยทีเดียว ดำไม่เหมือนหมาทั่วไปที่คอยตามเราแต่เจ้านี่เลือกที่จะนำเรามากกว่าถ้าคุณเคยดูหนังหรือภาพยนตร์ที่มีเจ้าหมาที่ฉลาดผิดหมาทั่วไปที่คุณเคยพบเห็นแล้วละก็คุณสามารถลองมาพบเจ้าดำที่ ดอยขุนตาลนี้ได้ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนของเรา  next88