ฮาราจุกุ – โอะโมะเตะซันโด 

Laforet

       ลาฟอเร่ต์ เป็นห้างสรรพสินค้าสำหรับผู้หญิงที่ภายในห้างนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแนวกอทิก โลลิต้า และแนวน่ารักสวยหวานที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือห้างนี้มีช็อปใหญ่ของแบรนด์ Joyrich ร้านผ้าเสื้อดังจาก L.A. ที่ขายเสื้อผ้าแนว street แฟชั่นสไตล์ J – pop และ K-pop อีกด้วยในเดือนมกราคมและกรกฎาคมของทุกปีนั้นห้างนี้จะจังานเซลประจำปีที่ชื่อว่า Grand bazar ใครที่ชอบของดีราคาไม่แพงไม่ควรพาสเทศกาลนี้เด็ดขาด

  การเดินทาง 

Tokyo Metro สถานี meji-jingumae ทางออก 5 

เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.

 

Oriental Bazar

ร้านขายของที่ระลึกและของฝากสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆมีทั้งชุดกาน้ำชา ตะเกียบ แก้ว พัด

ชุดกิโมโน และชุดยูกาตะ คนได้รับของฝากจะเห็นแล้วรู้ทันทีว่าคนให้เพิ่งไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาแน่ๆ

  การเดินทาง

เดินจากรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สถานี Omote – sando ทางออก A2 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

เปิดทำการทุกวันเวลา 10.00-19.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี

 

Kiddy Land

เป็นศูนย์รวมของเล่นขนาดใหญ่มีของเล่นทุกประเภทเท่าที่จะนึกได้โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสินค้าเกี่ยวกับฮัลโหลคิตตี้และริรัคคูมะร้านนี้เปรียบเสมือนซานริโอแลนด์ขนาดย่อมๆเลยทีเดียว

  การเดินทาง

Tokyo Metro สถานี Meji-jingumae ทางออก 5 ใช้เวลาเดินประมาณ 2 นาที

เวลาเปิดทำการวันจันทร์-วันศุกร์

เวลา 11.00-21.00 น. 

วันเสาร์-วันอาทิตย์เวลา 10.30-21.00 น.

 

Onitsuka Tiger

       ร้านรองเท้าสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลกและมีชื่อเสียงมายาวนานโดยสาขานี้เปิดเป็นสาขาเรือธงของบริษัทจึงมีทั้งรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดอีดีชั่นรุ่น Nippon made วางขายมากกว่าที่มีอยู่ในสาขาอื่น

  การเดินทาง 

เดินหลังห้าง Omotesando Hills

เวลาเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.

 

Bills

       ร้านอาหารและขนมหวานของสัญชาติออสเตรเลียซึ่งมีเชฟ Bill Granger พูดได้รับยกย่องจากนิตยสารนิวยอร์กไทม์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเมนูอาหารเกี่ยวกับไข่เป็นเจ้าของเมนูเด็ดสุดของร้านคือ Ricotta Hotcales , Fresh banana and honeycomb butter เป็นแพนเค้กที่มีส่วนผสมของโฮมเมดริคอตต้าชีสเสิร์ฟพร้อมกับกล้วยสดและ honeycomb butter

  การเดินทาง

ร้านตั้งอยู่ที่ชั้นเจ็ดของห้าง Tokyu Plaza สถานี meji-jingumae ทางออก 5 

เวลาเปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 8.30-23.00 น.

ราคา 1,200 – 2,500 เยน

 

 

สนับสนุนโดย  v9bet

ท่องเที่ยวไทย ไม่ไปไม่รู้ มีดีกว่าที่คิด

หลังจากที่ตอนนี้ประชาชนคนไทยเริ่มมีการขยับออกเดินทางเพื่อพาร่างกายและหัวใจตัวเองไปพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆนั้น หลังจากที่ต้องถูกขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้เว้นระยะห่างและพยายามหลีกการพบปะผู้คน เพื่อเป็นการลดปัญหาการแพร่ระบาดของไข้โควิด19 ซึ่งก็ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่ในความเป็นจริงคนหลายๆคน คงรู้สึกอึดอัด

เพราะเมื่อก่อนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระไปไหนมาไหนก็ได้ แต่รูปแบบของการใช้ชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไปหลังจากมีเจ้าโควิด19 โผล่ขึ้นมาในโลกเรา แต่ก็ไม่เป็นไร ไหนไหนสถานการณ์ก็เริ่มจะคลี่คลายและมีการผ่อนปรนให้ทุกคนเริ่มใช้ชีวิตปรกติกันได้แล้ว

วันนี้จึงอยากแนะนำที่เที่ยวที่ภูเก็ตเพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยกัน เพราะตอนนี้ให้ไปเที่ยวต่างประเทศก็คงจะทำไม่ได้ เที่ยวไทยนี่แหละสวยไม่แพ้กัน ซึ่งที่ภูเก็ตนั้นมีที่พักสวยอีกมากมายเลย ไปดูกัน

Como Point Yamu ที่พักระดับวิวสามร้อยหกสิบองศา ที่คุณจะสามารถมองเห็นทะเลได้จากทุกมุมของโรงแรม ด้วยห้องพักที่มีความหรูหราตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ผ้าครามย้อมมือ แถมบริการรับรองว่าเป็นกันเอง

Keemala ที่พักที่นี่ก็เรียกว่าปังไม่แพ้กัน เพราะถ้าคนเคยมาเที่ยวที่ภูเก็ตเชื่อว่าต้องรู้จักที่นี่แน่นอน เพราะที่พักของที่นี่เป็นสไตล์พูลวิลล่าตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์ท่ามกลางความโอบล้อมด้วยป่าที่สมบูรณ์ และยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้อีก เรียกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

The Slate โรมแรมที่เรียกว่าเก๋ที่สุดบนเกาะภูเก็ตซึ่งคนสร้างนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากการตกแต่งของเหมืองที่รุ่งเรืองในอดีต เรียกว่าสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวภูเก็ตโดยแท้ แถมยังมีพูลวิลล่าที่มีห้องสปา และห้องอบไอน้ำไว้รองรับกับคนที่อยากผ่อนคลายอีกด้วย เรียกว่าเป็นการมาเที่ยวแบบพักร้อนจริงๆ

Trisara Resort ชิลกันให้พอกับที่พักแห่งนี้ ที่สุดแสนจะคลาสสิก และเกินคำบรรยาย เรียกว่าเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆคนเลย ซึ่งมีคนเคยเปรียบเปรยไว้ถึงขณะที่ว่าที่นี่คือสวรรค์ชั้นสาม ซึ่งบอกว่าตกแต่งได้สวยงามในสไตล์ไทยคลาสสิกจริง แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทุกจุดมีไว้สำหรับให้ว่ายน้ำไปและชมวิวพระอาทิตย์ไปอีกด้วย

Anantara Mai Khao Phuket Villas ชื่อนี้แบรนดนี้คงไม่ต้องบอกถึงสรรพคุณหรือการบริการระดับพรีเมี่ยม ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความมีระดับ แนะนำเลยว่าหากคู่รักไหนต้องการมาฮันนีมูน ต้องที่นี่เท่านั้นที่จะทำให้คุณและคู่รักฟินอย่างบอกไม่ถูกเลยยย

 

 

สนับสนุนโดย  dewabet

เที่ยวอย่างไรให้มีความสุขและคุ้มค่า

การไปท่องเที่ยวนั้นหลายๆคนก็มีจุดประสงค์ในการที่จะท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไป บางคนต้องการไปเที่ยวเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรมต่างๆในที่ที่ได้ไปท่องเที่ยว บ้างก็ไปท่องเที่ยวเพื่อไปสัมผัสรสอาหารประจำท้องถิ่นในที่นั้นนั้น หรือบางคนอยากจะไปท่องเที่ยวนที่ต่างๆเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ หรืออื่นๆอีกมากมายก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลนั่นเอง

ที่จะเป็นตัวกำหนดได้ว่าจะไปเที่ยวเพื่ออะไรนั่นเอง และในการไปเที่ยวนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะได้รับความสุขอย่างแน่นอนเพราะเมื่อร่างกาย จิตใจและสมองได้รับการผ่อนคลายจากการท่องเที่ยวก้จะทำให้ความรู้สึกในการท่องเที่ยวของเรานั้นเป็นไปอย่างมีความสุข แต่ในบางครั้งการไปท่องเที่ยวแค่ความสุขอย่างเดียวอาจจะไม่พอ แต่การไปเที่ยวนั้นเราควรจะได้รับความคุ้มค่ากลับมาจากการท่องเที่ยวด้วยนั่นเอง

ความคุ้มค่าในการท่องเที่ยวคืออะไร โดยความคุ้มค่าจากการท่องเที่ยวนั้นก็คือ การท่องเที่ยวอย่างไรให้รู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เรานั้นเสียไป เพราะบางคนนั้นเมื่อได้ไปท่องเที่ยวแล้วกลับมาก็จะมีการบ่นบ้างว่า ทำไมรู้สึกท่องเที่ยวได้ไม่คุ้มเลยกับเวลาและจำนวนเนที่เสียไปกับการไปท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นต้น ดังนั้นแล้วสิ่งที่ช่วยและเป็นสิ่งสำคัญในการที่เรานั้นจะสามารถท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่ากับเวลาและจำนวนเงินที่เราได้จ่ายไปนั้นก็คือ การให้ความสำคัญในการที่จะไปท่องเที่ยวในครั้งนี้

เพราะถ้าหากเราได้ได้มีการให้คำสำคัญกับสถนที่ท่องเที่ยวหรือประเทศที่เราจะไปเที่ยวนั้นเราก็จะไม่มีการหาข้อมูลในเชิงลึกเราอาจจะหาเพียงแค่ข้อมูลที่มีอยู่แล้วตามอินเตอร์เน็ตหรือจากรีวิวที่คนไปมาแล้วนั่นเอง ดังนั้นการให้ความสำคัญในสถานที่ที่จะไปนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก มันจะสามารถช่วยให้เราได้รู้ถึงความน่าสนใจในสถานที่ที่เราจะไปนั้น

และสามารถทำให้เราไม่เสียเวลาเมื่อไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นอีกด้วย และการแบ่งเวลาเพื่อปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามลำดับความสำคัญ เชื่อว่าในทุกสถานที่ท่องเที่ยวหรือในทุกประเทศที่นิยมไปท่องเที่ยวนั้นมักจะมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อย่างมากมาย แต่เราจะต้องมีการวางแผนลำดับความสำคัญในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆด้วยว่า สถานที่ไหนควรจะไปที่สุดและเรียงลำดับความสำคัญลงมาเรื่อยๆ และอาจจะตัดสถานี่ที่ไม่น่าสนใจออกไป เพื่อทำให้เรานั้นเกิดการแพลนในเรื่องของเวลาในการไปสถานที่ต่างๆที่สำคัญได้อย่างพอดีนั่นเอง

สิ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เรานั้นได้ท่องเที่ยวนอกจากจะได้ความสุขในการท่องเที่ยวแล้วนั้นยังได้ความคุ้มค่าอีกด้วย เพราะมีการหาข้อมูลในเชิงลึกทำให้เมื่อเราไปสถานที่นั้นแล้วจะไม่เกิดข้อผิดพลาดนั่นเองและการเรียงลำดับความสำคัญของสถานที่ก็เช่นกัน จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าเพราะสิ่งที่เรามีการจัดลำดับแล้วนั้นเราได้เลือกแล้วว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความสุขและความคุ้มค่ากับเรามากที่สุดนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนันไพ่ดัมมี่

สถานที่ท่องเที่ยวและขอพรสำหรับความรัก

เวลาคนเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังแดนไกลและตามสถานที่ต่างๆ นั้น มักจะต้องมีการเตรียมพร้อมวางแผนการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวกันในแต่จุดแต่ละประเทศ ซึ่งบางคนก็จะเป็นสไตล์การเที่ยวถ่ายรูปตามสถานที่สำคัญๆ ของประเทศนั้นๆ บางคนก็ตระเวนเก็บแต้มช้อปปิ้ง เพื่อความสะใจในกระเป๋าเงิน บางคนก็ตระเวนท่องเที่ยวไหว้พระและทำบุญ

ซึ่งการตระเวนไหว้พระและทำบุญนั้นหลายๆ คนก็มักจะมีการขอพรแตกต่างกันไป บางคนก็พอเรื่องการเงิน บางคนก็ขอพรเรื่องการงาน และบางคนก็ขอพรเรื่องความรัก ซึ่งวันนี้เรามีสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขอพรในเรื่องความรักแล้วสมหวังมาแนะนำกัน

วัดหลงซาน ไต้หวัน หากใครมีโอกาสไปเที่ยวประเทศไต้หวัน อยากให้แนะนำไปที่วัดหลงซาน แห่งนี้ซึ่งถือว่าเป็นวัดดังของชาวไต้หวันเลยทีเดียว อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังศักดิ์สิทธิ์และโด่งดังในเรื่องของความรัก เพราะมีเทพเฒ่าจันทรา เทพเจ้าแห่งความรักของชาวจีน ซึ่งมีหลายคนแล้วว่าเมื่อได้ไปขอพรมากันนั้น สามาถได้คู่กลับมาจริงๆ

วัดหวังต้าเซียน ประเทศฮ่องกง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เมื่อใดก็ตามที่คนไปเที่ยวประเทศฮ่องกงนั้น จะต้องไปกราบไหว้สักการบูชาที่วัดแห่งนี้ เพราะถือว่าโด่งดังที่ที่สุดในเรื่องการขอเนื้อคู่ ซึ่งการขอพรที่วัดแห่งนี้จะมีตำนานเกี่ยวกับเรื่องด้ายแดงผูกนิ้ว เพราะคนจีนนั้นมีความเชื่อกันตั้งแต่โบราณว่า ด้ายแดงนั้นคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก สามารถทำให้คนโสดได้เจอกับเนื้อคู่ ส่วนคนที่แต่งงานกันและมีคู่แล้ว ก็จะช่วยให้ครองรักกันยืนยาวมากขึ้นไปตลอดกาล

ศาลเจ้าแม่กวนอิม รีพัลส์เบย์ ที่ประเทศฮ่องกง ไหนๆ ก็มาเที่ยวฮ่องกงแล้ว ก็อย่าได้พลาดเมื่อคุณไปกราบไหว้ที่วัดหวังต้าเซียนแล้วนั้น ก็ไปต่ออีกนิดเอาให้สุดและสมหวังดังใจทุกประการด้วยการไปกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม ที่ริมชายหาดรีพลัสเบย์ เพราะสถานที่แห่งที่มีเจ้าแม่กวนอิม ประดิษฐานให้ชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สักการะกันอยู่

และยังมีเจ้าแม่ทับทิม พระสังกัจจายน์ เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย ได้ให้มากราบไหว้สักการบูชากันอีกด้วย รวมถึงการขอพรกันในเรื่องของความรักที่มีเทพเจ้าแห่งความรัก ซึ่งขอพรได้ทั้งคนโสดและคนคนไม่โสด 

ซึ่งไม่ว่าที่ใดก็ตาม หากคุณมีความรักแล้วและยึดมั่นครองรักกันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ คุณก็จะรักกันไปอย่างยืนยาว แต่ถ้าคนใดยังไม่มีคู่ หากคุณเป็นคนดี คุณก็จะเจอกันดีๆ แน่นอน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน หวย

ท่องเที่ยวที่จังหวัดปทุมธานีกับวัดโบสถ์ใกล้บ้าน

ใครๆต่างก็ต้องการไปเที่ยวที่ใกล้บ้านแต่ที่นั่นก็ต้องสวยและน่าไปและวันนี้เราก็จะมาพูดถึงสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯกันค่ะโดยจะอยู่ที่ปทุมธานีเท่านั้นเองโดยจะมีที่ไหนกันบ้างที่เราจะได้ทำการพูดถึงเดี๋ยวเราจะไปดูไปพร้อมกันเลยค่ะ

สถานที่แรกที่เราจะพูดถึงนั่นก็คือวัดโบสถ์ค่ะ โดยวัดโบสถ์นะคะจะเป็นวัดที่จะมีหลวงพ่อโตและก็หลวงพ่อโสธรจำลองที่มีขนาดใหญ่มากเลยค่ะโดยจะมีคนที่มักจะมาทำบุญที่นี่นะคะหลายคนจะมาถ่ายรูปกับหลวงพ่อทั้ง 2 ท่านค่ะได้วัดแห่งนี้นะคะถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยและก็ได้ทำการถูกนำมาสร้างใหม่ต่อเติมให้ดียิ่งขึ้นนะคะ

จนสุดท้ายก็ทำการเปิดเป็นวัดโบสถ์ที่ทุกคนรู้จักกันมานานโดยจะมีพระองค์นึงนะคะซึ่งจะเป็นพระที่มีชื่อว่าพระคู่บ้านคู่เมืองใดล่ะค่ะเป็นหลวงพ่อซึ่งมีชื่อว่าหลวงพ่อเหลือในห้องที่หลวงพ่อเหลือทรงถูกสร้างและวางไว้นะคะจะอยู่ในห้องขนาดหนึ่งซึ่งจะมีรูปภาพวาดโบราณมากมายนะคะว่าเป็นวัดที่สวยงามเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ

จึงต้องขอบอกกับทุกคนเพื่อให้ทุกคนนะคะได้ทำการลองมาเที่ยวที่นี่กันสักครั้งค่ะขอรับรองได้ว่าที่นี่นั้นจะต้องถูกใจใครหลายๆคนอย่างแน่นอน นอกจากนั้นที่นี่มีร้านขายของฝากมากมายไม่ว่าจะเป็นขนมหวานก็อร่อยและก็จะซื้อไปเป็นของฝากให้กับคนที่บ้านนอกจากนั้นก็ยังมีอีกร้านนึงค่ะโดยเป็นร้านดังมากเป็นร้านขายของเกี่ยวกับแก้ว

โดยจะนำแก้วมาใช้วิธีของเขาอะไรสักอย่างจนมันกลายเป็นรูปต่างๆหลังจากนั้นเขาก็จะใช้เทคนิคในการระบายสีระบายสีแก้วจนกลายเป็นรูปต่างๆที่สวยงามเป็นอย่างมากโดยเข้านั้นก็ขายราคาไม่เกินหลักพันหรอกค่ะแต่มันก็มีความเชื่อว่าจะช่วยในด้านของการเสริมดวงจริงๆเหมาะมากเลยค่ะทุกคนที่ช่วยในเรื่องของโชคลาภทุกคนสามารถเข้าไปที่นี่แล้ว

ก็สามารถตามหาร้านนี้กันได้นะคะเพราะว่าร้านนี้ตามหาได้ไม่ยากเลยจริงๆจึงเดินไปตรงตลาดนะคะนอกจากนั้นที่นี่ยังมีอีกตัวนึงเป็นโซนในการให้อาหารปลามีคนมาให้อาหารปลามากมายอีกร้านอาหารหนึ่งที่เด็กมันก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวเรือจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านเดี่ยวของที่นี่เลยนะคะรับรองว่าอร่อยถึงใจแน่นอน ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน สล็อต

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

            สำหรับใครที่ไม่เคยไปเที่ยว ที่จังหวัดเชียงใหม่เลย อยากลองไปดูสักครั้ง และหากได้มาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ต้องแวะมาไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพให้ได้เพราะวัดพระธาตุดอยสุเทพ ถือได้ว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้

ที่นี่มีอายุเก่าแก่มาหลายร้อยปีแล้ว  สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพส่วนใหญ่ต้องการที่จะมาเยี่ยมชมความงดงามของปูชนียสถานของที่นี่ด้วยกันทั้งนั้น หากใครที่เดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ก่อนที่จะเดินถึงบนยอดของวัดนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นบันไดที่มีการสร้างเอาไว้เดินขึ้นมาด้วยจำนวนขั้นบันไดที่มากถึง 300 ขั้นและมีการทำที่กั้นเป็นราวบันไดด้วยพญานาคสี่หัว  ซึ่งมีหางยาวขึ้นไปถึงด้านบนของวัดพระธาตุดอยสุเทพ

ซึ่งตัวบันไดนั้นปูด้วยอิฐแดงและตลอดสองข้างทางที่เดินขึ้นไปนั้น จะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยและต้นไม้ใหญ่ กิ่งของต้นไม้จะโน้มเข้ามาหากัน ทำให้เหมือนกับเป็นหลังคาคอยกันแดดให้เรา ทำให้เราไม่ร้อนเวลาที่ต้องเดินขึ้นไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนดอย  ตลอดระยะเวลาที่เดินขึ้นบันไดไปนั้นอากาศจะเย็นสบายมากและอากาศก็ดีมากมาก

เพราะมีแต่ต้นไม้ทีคลายอ๊อกซิเจนที่บริสุทธิ์ให้เราได้สูดดมเอาเข้าปอด ซึ่งหากเมื่อต้องเปรียบเทียบอากาศของที่ดอยสุเทพกับที่กรุงเทพแล้วละก็ของบอกว่าต่างกันอย่างมาก เพราะที่นี่ต้นไม้เยอะและอากาศดีมากมาก และหากใครอยากใช้บริการทางลัดที่วัดพระธาตุดอยสุเทพก็มีบริการรถกระเช้าให้ขึ้น หรือจะลงก็ได้ 

ซึ่งจะมีเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวเวลาประมาณ ตีห้าครึ่ง จนถึงเวลาประมาณทุ่มครึ่ง แต่อยากแนะนำว่าหากยังเดินไหว ให้เดินขึ้นเองดีกว่าค่ะได้ชมธรรมชาติที่สวยงามสองข้างทางดีด้วยและเมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบนนั้นเราจะพบกับสิ่งก่อสร้างที่ทาด้วยสีทอง เหลืองอร่ามตา และดูสวยงามมากเลยค่ะ  ที่นี่มีการก่อสร้างออกมาในรูปแบบของศิลปะล้านนา 

และที่ผู้คนนิยมมาชมความงดงามกันมากก็คือ เจดียย์ทรงเชียงแสน ซึ่งมีสีทองเหลืองอร่ามตาอย่างมาก และยังมีความงดงามของโบสถ์และกุฏิอีกด้วย เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็อยู่ลืมกราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอพร เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองนะคะ ที่นี่ค่อนข้างกว้างใหญ่และมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก สามารถเดินดูความสวยงามทั้งวันก็ไม่มีเบื่อเลยละค่ะ และหากใครเกิดปีมะแม ต้องมาไหว้พระธาตุที่นี่ให้ได้นะคะ เพราะเป็นพระธาตุของคนเกิดปีมะแมโดยเฉพาะเลยที่เดียวค่ะ

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  โหลด bk8

ท่องเที่ยวที่เชียงคานและชมวัฒนธรรมเมืองหลวงเก่าของประเทศลาว

เชียงคานได้เป็นอีกหนึ่งในอำเภอ จังหวัดเลย ที่ได้ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงซึ่งในอดีตเชียงคานแห่งนี้ก็ได้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศลาวมาก่อนและยังได้เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่อยู่ในสมัยราชอาณาจักรล้านช้างเชียงคาน เมื่อที่เต็มไปด้วยเรื่องประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานในที่แห่งนี้มันจึงได้เป็นสถานที่ที่ได้ทำให้หลายคนรวมทั้งตัวผมก็อยากที่จะแวะเวียนเข้ามาท่องเที่ยวและสัมผัสสักครั้งในชีวิตในช่วงเยนที่ถนนคนเดินกำลังเริ่มตั้งมันก็ได้เป็นเวลาเดียวกันที่เชียงคานได้เผยตัวตน

ทำให้ผมได้สัมผัสในการเดินทางในครั้งนี้ผมได้ปั่นจักรยานจนวนครบรอบถนนคนเดินของเชียงคานจากนั้นเราก็ได้ยินเสียงอึกทึกที่ตลาดต้องชมเมื่อผมได้เดินฝ่าผู้คนจำนวนมากเข้าไปจนได้เข้ามาถึงก็ได้พบว่าวันนี้ได้มีการจัดงานกิจกรรมของชุมชนจำทำให้ผมได้มาพบกับเสียงปรมมือและรอยยิ้มของผู้คนที่นี่หลังจากปล่อยใจให้สบายไปกับความเรียบง่ายของสถานที่ในที่แห่งนี้ซึ่งวิวของเด็กๆที่ได้เตะฟุตบอลกันอยู่ในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมันก็ได้ทำให้ผมนึกถึงในช่วงของเวลาเรียนที่แสนน่าเบื่อในอดีตช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์คล้อยดับลงไปมันคงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากกว่าในเวลานั้น

กับชีวิตของเด็กที่โหล่หรือที่รองโหล่มาโดยตลอดทั้งชีวิตซึ่งในบางครั้งผมถึงกับจะต้องบอกกับแม่ว่าสอบได้ที่29ทั้งๆที่นักเรียนมี30คนและการที่ผมได้ออกมาเดินทางในโลกกว้างใบใหม่ของตัวเองโดยตัวคนเดียวมันก็อาจจะทำให้ผมได้เห็นในหลายๆสิ่งที่ในห้องเรียนไม่มีทางที่จะเทียบมันได้กับสิ่งที่ทุกคนได้เรียกว่าประสบการณ์ชีวิต

ซึ่งมันก็ได้ทำให้ผมได้รับรู้ว่าการที่ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นมันมีสวรรค์แห่งการเดินทางของเด็กที่ไม่ชอบเรียนหนังสือรออยู่ถนนคนเดินเชียงคานในยามค่ำคืนมันได้คึกคักไปด้วยของกินและผู้คนมันได้เป็นเมืองเก่าที่ถูกแปรสภาพทำให้มันเจริญอย่างไม่เสียรูปแบบในช่วงเวลาที่อากาศอาจจะร้อนสักนิดแต่ความสบายของคนที่นี่ก็ทำให้เราไม่ต้องรีบเร่งอะไรสำหรับคนเมืองที่เดินทางมายังภาคอีสานในครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้ตักตวงเอาความสุขกลับไปได้ไม่ยากและผมก็ได้กลับมาที่บ้านเชียงคานเพื่อที่จะเตรียมตัวพักผ่อน สำหรับการตื่นเช้ามืดของวันพรุ่งนี้เช้ามืดกับทิวทัศน์ของเมืองพุทธที่เชียงคานผู้คนรวมถึงนักท่องเที่ยว

และชาวบ้านเมืองเชียงคานเริ่มออกมาใส่บาตรกันในยามเช้าผมได้นั่งรอพระเพื่อที่จะรอใส่บาตรแต่มันก็เป็นการใส่บาตรที่แปลกไปกว่าทุกครั้งเพราะการใส่บาตรครั้งนี้คือการใส่บาตรข้าวเหนียวเป็นครั้งแรกของผมที่จะได้้ใส่บาตรข้าวเหนียวสักครั้ง

 

 

สนับสนุนโดย  bk8 slot

คลายร้อนด้วยการไปร่องแก่งหินเพิง

          สำหรับทริปที่เราจะไปเที่ยวกันวันนี้เป็นทริปการท่องเที่ยวของคนที่รักการผจญภัยโดยเฉพาะอีกไม่นานนับจากนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงของฤดูฝนแล้วดังนั้นการท่องเที่ยวที่เราจะไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนวันนี้ จึงอยากแนะนำไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมเกี่ยวกับการล่องแก่งซึ่งเป็นกิจกรรมผจญภัยรูปแบบหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่จะมีน้ำมากเป็นพิเศษ ซึ่งทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพมากนักเราจะไปกันแค่จังหวัดปราจีนบุรีเท่านั้น

โดยเราจะไปล่องแก่งกันที่หินเพลิงซึ่งเหมาะมากถ้าจะไปเที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมนี้เพราะเป็นช่วงที่น้ำมากเป็นพิเศษเนื่องจากเข้าฤดูฝนแล้วซึ่งกิจกรรมนี้เราสามารถที่จะไปพายเรือยางหรือจะลอยล่องแม่น้ำสายใหญ่ดูความงดงามธรรมชาติของ 2 ริมแม่น้ำก็ได้หรือใครที่ชอบเน้นการผจญภัยแบบสุดๆมาฝากฟันอุปสรรคจากน้ำที่เชี่ยวกราก

เราก็มีการล่องแก่งซึ่งแก่งที่ว่านี้จะมีระดับความยากง่ายอยู่ที่ประมาณ 3-5 ระดับด้วยกันโดยเราจะมีการผ่านเกาะแก่งต่างๆทั้งหมดประมาณ 7 แก่งซึ่งจะเริ่มจากแต่งแรกก็คือแก่นหินเพลิงก่อนหลังจากนั้นผ่านไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงแก่งผักหนามล้อมต่อด้วยแก่งวังบอนและแก่งลูกเสือไปถึงแก่งวังยาวแก่งวังไทรและสุดท้ายจบด้วยที่แก่งงูเห่า

สำหรับการไปเที่ยวล่องแก่งในครั้งนี้เราสามารถขับรถจากกรุงเทพฯออกไปเช่นปราจีนบุรีได้ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ถึง และการล่องแก่งในแต่ละครั้งนั้นก็จะต้องมีการใช้ทักษะของตัวเองแล้วก็เพื่อนๆที่ด่าช่วยกันประคับประคองเรือยางไม่สามารถฟันฝ่ากระแสน้ำที่ไหลแรงและเชี่ยวกราดและยังมีโขดหินคอยเป็นอุปสรรคให้เราต้องคอยหลบ คอยอีกมากมายทั้งแม่น้ำก็เย็นและสดชื่นซึ่งแต่ละแก่งนั้นจะมีระดับความยากง่ายแตกต่างกันออกไปแต่การมาล่องแก่งก็เป็นการสร้างความสามัคคี

และเป็นการสร้างความสนุกสนานให้กับเราและเพื่อนๆการมาล่องแก่งนั้นควรจะมากับเพื่อนนะคะหักมากับครอบครัวที่มีเด็กเล็กซึ่งไม่เหมาะและก่อนที่เราจะมีการล่องแก่งนั้นเราจะต้องมีการเดินเข้าไปในป่าซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินประมาณ 2 กิโลเมตรถ้าคิดเป็นนาทีก็อยู่ที่ประมาณ 50 นาทีก็จะถึงจุดสตาร์ทของการเริ่มล่องแก่ง

หรือถ้าหากไกลล่องแก่งเบื่อแล้วอยากจะเดินดูธรรมชาติชมความงดงามทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานเขามีบริการขี่จักรยานโดยธรรมชาติตรงบริเวณป่าเขาใหญ่ได้นะคะซึ่งเราจะเห็นเกี่ยวกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นเต็มไปหมดรวมถึงพืชพันธุ์ต่างๆที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อนซึ่งเราสามารถมาศึกษาเกี่ยวกับพืชพันธุ์ของต้นไม้ได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีได้เช่นเดียวกัน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  สูตร บาคาร่า bk8

ไปเที่ยวอุทยานวังตะไคร้

ที่นี้นั้นมีดอกไม้และต้นไม้สวยงามมากมายตกแต่งประดับประดาไว้ค่ะ ซึ้งที่นี้นั้นได้เคยมีตำนานอยู่ถ้าถามคนที่อาศัยอยู่ที่นั้นนั่นทุกคนจะรู้ดีว่าที่นี้นั้นมีตำนานอยู่ค่ะและวันนี้เราจะมาเล่าตำนานของน้ำตกวังตระไคร้กันค่ะ  เรื่องเล่ามีอยู่ว่า เมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนมาเที่ยวที่น้ำตกเล่นอยู่ดีๆ

จากที่น้ำเป็นสีใสน้ำกลับเปลี่ยนสีเป็นน้ำที่มีสีขุ่นมากมากแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยแม้ว่าเหล่านักท่องเที่ยวจะเห็นว่าน้ำสีขุ่นแต่ก็ยังเล่นต่อไปและไม่สนใจอะไรเลยและสุดท้ายน้ำป่าก็ไหลลงมา( อย่างที่ทุกคนรู้ว่าน้ำป่าไหลเร็วมาก)เนื่องจากน้ำไหลลงมาเร็วมากทำให้เหล่านักท่องเที่ยวหนีไม่ทันทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดก็ต้องเสียชีวิตลง

เนื่องจากความที่ไม่สนใจตอนที่มีสันญาณว่าน้ำไปจะไหลลงมาจึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องตายกันทั้งหมดว่ากันว่าน้ำที่น้ำตกวังตระไคร้นั้นไหลแรงอยู่แล้วทำให้บางทีเราอาจจะล้มลงไปได้และนอกจากนั้นตรงพื้นนั้นจะมีก้อนหินก้อนใหญ่ๆอยู่เต็มไปหมดดังนั้นบางทีเวลาเราล้มลงไปหัวจะฟาดกับก้อนหินค่ะ และว่ากันว่าทุกๆปีจะต้องมีคนที่จะต้องจมน้ำตายเพื่อไปเป็นตัวตายตัวแทนของวิญญาณอีกตนที่เคยตายอยู่แล้ว ที่นี้นั้นถึงแม้ว่าที่นี้จะมีตำนานเช่นนี้แต่ความสวยของน้ำตกกลับตราตรึงใจมากกว่า

ความกลัวดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีตำนานเช่นนี้แต่ทุกคนก็ยังไปเล่นที่น้ำตกวังตระไคร้อยู่ดี ซึ้งน้ำตกที่นี้นั้นน่าไปเล่นมากมากเลยค่ะ และทุกคนเวลาที่จะกระโดดเพื่อที่จะเล่นน้ำก๋ควรจะดูที่พื้นด้วยเพราะถ้าบางทีเรากระโดดลงไปที่น้ำแล้วบางทีหัวของเราอาจจะไปโดนก้อนหินแล้วเสียชีวิตได้ดังนั้นต้องระวังนะคะ จริงๆแล้วน้ำตกนี้เกิดมาจากลำธารสองลำธาร

และหลังจากนั้นลำธารทั้งสองก็ไหลมาบรรจบกันและหลังจากนั้นเมื่อมองดูรวมๆจะเห็นว่าเป็นเหมือน้ำตกค่ะและที่นี้นั้นมีบรรยากาศธรรมชาติทำให้หลายคนตั้งชื่อน้ำตกนี้ว่า “ น้ำตกวังตระไคร้” ค่ะ

ซึ้งส่วนใหญ่ต้นไม้และดอกไม้ที่ขึ้นแถวๆน้ำตกวังตระไคร้นั้นจะเป็นดอกไม้และต้นไม้ที่ชอบน้ำค่ะ ซึ้งต้นไม้ที่ส่วนใหญ่คนจะไปถ่ายรูปด้วยนั้นจะเป็นต้นไม้ที่มีดอกไม้สีชมพูสวยสดสีสันงดงามค่ะ น่าไปมากมากเลยนะคะ ( เวลาจะไปที่นี้หรือไม่ว่าจะน้ำตกที่ไหนอย่าลืมเช็คสภาพอากาศด้วยนะคะ ) ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ

เดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ชมจุดชมวิว ณ วัดถ้ำเสือ

ในการเดินทางที่เป็นตัวคนเดียวบนเส้นทางที่เป็นทางเลือกสำหรับนักเดินทางซึ่งไม่ว่าเรานั้นจะเดินทางด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่สำหรับผลลัพธ์จากการเดินทางที่เรานั้นจะได้รับกลับมาอย่างน้อยก็น่าจะทำให้เราได้สัมผัสทางด้านของความหมายที่เป็นของชีวิตโดยสำหรับช่วงหนึ่งของการเดินทางนั้นผมได้ทำการเดินทางเข้าสู่จังหวัดกระบี่ที่เป็นช่วงเวลายามเช้าของวันนั้น

สำหรับวันนั้นถือได้ว่าเป็นวันจันทร์ที่มีหลายคนได้เดินทางเพื่อออกไปเป็นการทำงานแต่ส่วนตัวของผมแล้วผมได้เดินทางเข้าสู่จังหวัดกระบี่ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์สำหรับครั้งแรกของผมที่เคยเดินทางมาสำหรับที่แห่งนี้ประมาณน่าจะ 2-3 วันถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาที่ไม่น้อยเลยแต่มันก็ถือได้ว่าไม่ได้มากจนเกินไป

ในการทำความรู้จักเกี่ยวกับจังหวัดกระบี่นี้ผมมองว่าจังหวัดกระบี่นั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งถือได้ว่าทริปนี้ของผมนั้นผมมองว่าวัดถ้ำเสือเป็นจุดมุ่งหมายแห่งการเริ่มต้นในการเดินทางสำหรับทริปแรกของผมเลยจะเห็นได้ว่าการเดินทางครั้งนี้มันอยู่ไม่ไกลจากสนามบินของกระบี่ค่อยนักผมจึงทำการเดินทางโดยนั่งรถเมล์ซึ่งได้นั่งจากสนามบินจากนั้นก็นั่งต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อเป็นการเดินทางเข้าไปสู่วัดแบบง่ายๆ

จะเห็นได้ว่าวัดถ้ำเสือนั้นเป็นวัดที่ค่อนข้างเก่าแก่ซึ่งในอดีตนั้นน่าจะเคยมีเสือได้มาอยู่อาศัยจึงทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นมักมีการได้ยินเสียงของเสือที่มีการคำรามอย่างดังและเสียงเหล่านี้จะอยู่บริเวณรอบๆปากถ้ำแต่ทว่าในอดีตนั้นก็เริ่มจะมีพระภิกษุและยังมีแม่ชีที่เริ่มเข้ามานั่งสมาธินอกจากนั้นยังมานั่งปฏิบัติธรรมในบริเวณถ้ำแห่งนี้อีกด้วยดังนั้นวัดแห่งนี้จึงมีการเรียกขานเกี่ยวกับวัดว่าวัดถ้ำเสือ

ในการเดินทางมายังวัดถ้ำเสืออันนั้นสำหรับผมแล้วคงไม่ใช่การเดินทางมาไหว้พระหรือมาเพื่อเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆไปแต่ผมมองว่าการเดินทางมาเห็นถ้ำเสือกับตาของผมเองคงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและประทับใจของผมอยู่ไม่น้อยเลยเนื่องจากบรรยากาศรอบๆถ้ำนั้นเงียบสงบและแทบไม่มีกลุ่มคนมีเพียงแค่บรรดานักท่องเที่ยวที่เหมือนกับผมเดินเข้าไปในลักษณะเดียวกับผมนั่นเองการเดินเข้าไปนั้นยิ่งลึกผมก็ต้องหยุดและพยายามเงียบที่สุดเพราะว่าภายในนั้นจะมีกลุ่มคนที่เข้ามาปฏิบัติธรรมนั่งอยู่อย่างเงียบจนผมไม่กล้าเสียงดังหรือแม้แต่จะหายใจแรงๆ

สำหรับวัดถ้ำเสือที่ใครต่อใครรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้นคงจะเป็นจุดที่เอาไว้ชมวิว 360 องศาโดยมันจะอยู่สูงเจ็บมากๆของวัดแห่งนี้และการจะขึ้นไปยังจุดชมวิวนั้นจะต้องเดินทางโดยบันไดด้วย 1237 ขั้นซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดของนักเดินทางที่ต้องการมาที่แห่งนี้ซึ่งตัวผมเองนั้นก็ไม่ได้เคยขึ้นบันไดมากไปกว่า 1,000 มาก่อนผมคิดเองนะว่าหลายๆคนนั้นก็คงเดินทางไปได้เพียงแค่ครึ่งทางเพียงเท่านั้นสำหรับสิ่งที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวแห่งนี้จะต้องอาศัยเกี่ยวกับความอดทนและความพยายามเป็นอย่างมากเพราะสำหรับตัวผมเองนั้นเดินทางเพียงได้ครึ่งทางก็รู้สึกถึงอาการเมื่อยล้า