พาเที่ยวตลาดน้ำสวนผึ้ง ตลาดน้ำเวเนโต้ ของจังหวัดราชบุรี

     สำหรับตลาดน้ำเชื่อว่าในปัจจุบันนี้หลายจังหวัดมากที่มีการเปิดขายตลาดน้ำ  ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่าจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปจังหวัดนั้นได้เพราะหากเดินทางมาเที่ยวที่ตลาดน้ำนอกจากเหล่าบรรดาพ่อค้าจะสามารถขายของได้แล้วนักท่องเที่ยวก็จะมีการแวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดนั้นๆอีกด้วยเรียกได้ว่าตลาดน้ำซื้อเป็นแสงสี ของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นๆเลยก็ว่าได้

    และแน่นอนว่าที่จังหวัดราชบุรีก็ยังมีตลาดน้ำเช่นเดียวกันและตลาดน้ำที่เราจะพาไปรู้จักในครั้งนี้นั้นชื่อว่าตลาดน้ำเวเนโต้   หรือที่คนจังหวัดราชบุรีมักเรียกกันว่าตลาดน้ำสวนผึ้งนั่นเอง  แน่นอนว่าที่ตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ของขายเพียงเท่านั้นหากคุณคิดว่า ถ้ามาที่ตลาดน้ำเวเนโต้แล้วจะเจอเรือพายเรือในคลองเหมือนกับตลาดน้ำทั่วไปแล้วก็คุณเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

         เพราะที่ตลาดน้ำเวเนโต้แห่งนี้นั้นไม่ได้มีเรือแจวเรือพายอย่างที่คุณคิดที่นี่ก็มีการตกแต่งสถานที่ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าตลาดน้ำแห่งนี้ไม่เหมือนกับตลาดน้ำทั่วไปเพราะที่นี่บรรยากาศโดยรวมแล้วจะเหมือนกับพากันมาท่องเที่ยวตามสถานที่ที่เป็นสถานที่โรแมนติกอย่างเช่นซานโตรินี่เลยก็ว่าได้สถานที่แห่งนี้รูปแบบจะไม่เหมือนกับตลาดน้ำทั่วไปเพราะถึงแม้จะมีคลองสำหรับระบุเอาไว้ว่าไปตลาดนั้นก็จริงแต่ร้านค้าที่มีการเปิดขายของนั้นได้อยู่ด้านบนพื้นและขายของอยู่ในตัวอาคารซึ่งตัวอาคารนั้นก็สะอาดตกแต่งด้วยโทนสีขาวอัดสีน้ำเงินเข้มทำให้แลดูแปลกตา

      และสินค้าที่นำมาขายในตลาดน้ำเวเนโต้แห่งนี้ก็ไม่ได้มีการขายเพียงแค่อาหารขนมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ของที่นำมาขายนั้นมีหลากหลายสไตล์ให้ลูกค้าได้เลือกไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของประดับและของตกแต่งเครื่องสำอางต่างๆเรียกว่ามีทุกสไตล์ที่ลูกค้าอยากจะซื้อกันเลยทีเดียว 

         จะมีสินค้าให้เลือกซื้อเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแล้วที่นี่ยังมีการออกแบบเอาไว้สำหรับให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปตามมุมต่างๆ เรียกได้ว่ามีทั้งมุมถ่ายรูปและมีมุมสำหรับซื้อของที่เป็นโซนที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไปถ่ายรูปกันมากที่สุดก็คือสวนหย่อมและหอระฆัง  รวมถึงลานน้ำพุขนาดใหญ่นั่นเอง 

ใครที่ชื่นชอบเที่ยวตลาดน้ำแล้วเราก็แนะนำว่าให้ลองแวะมาเที่ยวที่ตลาดน้ำสวนผึ้งแห่งนี้ที่ตลาดน้ำเวเนโต้แห่งนี้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่จำกัดเลยทีเดียวเพราะที่นี่มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นอย่างมากและสามารถจุนักท่องเที่ยวในปริมาณที่มากได้โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมและซื้อของที่ตลาดน้ำแห่งนี้ได้ทั้งวันตลาดจะมีการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 8:30 น. และจะปิดตลาดอีกครั้งหนึ่งตอน 18:30 น นั่นเอง 

      

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์

ชมโบสถ์สีชมพูในประเทศเวียดนาม

         สำหรับการทอ่งเทียวในครั้งนี้จะพาไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม และสถานที่ท่องเทียวที่จะพาไปรู้จักในครั้งนี้นั้น จะพาไปเที่ยวโบสถ์ตามเมืองต่างๆในประเทศเวียดนามค่ะ  เช่น ที่เมือง ดานัง   เมืงองโฮจิมินห์ และเมืองดาลัด

       เชื่อไหมค่ะว่า ที่ประเทศเวียดนามนี้ ทั้งสามเมืองที่กล่าวมาข้างต้นจะมีจุดดึงดูดให้นักทอ่งเที่ยวได้ไปชมความงดงามของตัวโบสถ์  ซึ่งโบสถ์ทั้งสามที่นี่มีลักษณะการสร้างที่ไม่เหมือนกันมากนัก แต่ที่เหมือนกันอย่างหนึ่งนั่นก็คือ โบสถ์ทั้งสามหลัง ที่มีการสร้างกันคนละเมืองนั้น ต่างก็พากันทาสีชมพูค่ะ  

       สำหรับโบสถ์แรกที่เราจะไปชมกันนั้น อยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ค่ะ โบสถ์นี้มีชื่อว่า โบสถ์ท้นดินห์  สำหรับโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ความงดงามและมีใหญ่โต  โดยโบสถ์หลังนี้ใหญ่รองลงมาจากโบถ์นอร์ทเธอดาม จึงนับได้ว่าใหญ่เป็นอันดับสองของโลกทีเดียวล่ะค่ะ  

          และยังมีการทาเป็นสีชมพูตัดกับสีขาว แลดูสวยสะดุดตามากค่ะ ที่โบสถ์ทันดินห์แห่งนี้จะมีการสร้างหอคอยเอาไว้ ซึ่งหอคอยที่นี่จะสูงถึง หกสิบเมตรเลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นหอคอยที่สูงมากมาก  ด้านหน้ามีนาฬิกาสีขาวขนาดใหญ่มาติดเอาไว้ให้กับประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาได้ดูกันด้วย  และแน่นอนว่าช่วงที่มีการสร้างโบสถ์แห่งนี้จะเป็นช่วงปี ค.ศ. 1876 ซึ่งนับได้ว่าโบสถ์แห่งนี้มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีมาแล้ว 

          ส่วนโบสถ์ที่สองที่อยากพาไปรู้กันกันนั้น อยู่ที่เมืองดานัง โบสถ์นี้มีชื่อว่าโบสถ์สีชมพู สำหรับเหตุผลว่าทำไม ถึงเรียกชื่อนี้ก็คงไม่ต้องบอกกันนะคะ เพราะโบสถ์ทั้งหลังมีการสร้างและทาด้วยสีชมพูพาสเทลทั้งหลังเลยค่ะ  ที่นี่มีความสวยงามมากและสีของโบสถ์เมื่อมองแล้วก็ดูอ่อนหวานละมุนตามากทีเดียวล่ะค่ะ และโบสถ์แห่งนี้ก็มีความเก่าแก่ไม่แพ้โบสถ์ทันดินห์ที่ เมืองโฮจิมินห์เลยล่ะค่ะ เพราะสร้างมาตั้งแต่ประเทศเวียดนามได้ตกมาเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสซึ่งก็อายุมากกว่าร้อยปีแล้วเช่นกันค่ะ

         ส่วนอีกโบสถ์ที่ไม่พาไปเที่ยวคงไม่ได้เช่นกัน เพราะโบสถ์แห่งนี้ก็ทาสีเป็นสีชมพูเช่นเดียวกันค่ะ โดยที่นี่มีชื่อเรียกว่าโบสถ์โดเมนเดมารี  โบสถ์แห่งนี้จะอยู่ที่เมืองดาลัด  ส่วนโบสถ์ที่นี่สร้างมาในช่วงปี ค.ศ. 1930  ซึ่งสร้างทีหลังโบสถ์ทันดินห์ แต่โบสถ์แห่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้สองที่แรกเลยล่ะค่ะ สำหรับโบสถ์ที่นี่จะอยู่บนเนินเขา ทำให้โบสถ์ที่นี่ค่อนข้างสงบ เพราะอยู่ไกลออกมาจากตัวเมืองหน่อยค่ะ แต่สีสันก็สวยงามไม่แพ้กับโบสถ์อื่นๆเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์