สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS

           สำหรับสังคมเมืองการเดินทางไปไหนมาไหนส่วนใหญ่จะเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้า BTS ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำร้านอาหารและเครื่องดื่มที่น่าไปซึ่งเราสามารถนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านรวมถึงหามุมถ่ายรูปเก๋ๆสวยๆอีกทั้งยังมีอาหารที่รสชาติแสนอร่อยมาดูกันว่ามีร้านอาหารไหนบ้างที่น่าไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

         สำหรับสถานที่แรกแนะนำว่า หากใครที่ชื่นชอบบรรยากาศร้านอาหารที่เน้นความเป็นธรรมชาติมองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้เขียวขจีกลางเมืองกรุงอย่างนี้ที่ซอยสุขุมวิท 46 เรามีร้านอาหารในฝันแบบนี้แนะนำซึ่งสามารถมาที่ร้านนี้ได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงบอกเลยว่าแค่เพียงลงสถานีนี้เดินมาไม่ถึง 100 เมตร

คุณก็จะเจอร้าน Niipa Art Complex ที่นี่เปิดเป็นสถานที่ที่ให้ลูกค้าได้มานั่งดื่มด่ำกับกาแฟรสเลิศ และมีเค้กและเบเกอรี่แสนอร่อยที่สำคัญที่ร้านแห่งนี้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งในห้องแอร์หรือหากใครอยากตั้งท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นก็สามารถนั่งในโซนของ Outdoor ได้เช่นเดียวกัน

สำหรับที่ร้านแห่ง่นี้จะมีการทำทางเดินเป็นแบบ สกายวอร์ค ให้ลูกค้าได้เดินชมธรรมชาติพร้อมกับถ่ายรูปไปด้วย และยังมีการนำกระจกขนาดใหญ่มากั้น เวลาถ่ายรูปก็จะมีการสะท้อนกับกระจกสวยแปลกตาไปอีกแบบ และที่สำคัญที่นี่ไม่ร้อนเลยเพระต้นไม้เยอะ อากาศดีมากๆเลยค่ะ

       และสำหรับที่เที่ยวแหล่งที่สองที่อยากแนะนำก็คือ ร้าน Craft café  ซึ่งที่ร้านแห่งนี้ ก็สามารถเดินทางมาได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS  ซึ่งที่ร้าน Craft café  แห่งนี้อยู่ห่างจากร้าน Niipa Art Complex มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  เดินข้ามถนนมาเยื้องกันนิดหน่อยก็จะเจอร้านนี้ได้ไม่ยากเลยค่ะ ที่ร้านนี้เป็นร้านที่มีการตกแต่งภายในร้านสไตล์วินเทจ ด้านในจะมีการนำจานลวดลายสวยงามมาประดับตกแต่งตามฝาผนัง

แถมยังนำต้นไม้มาห้อยตามชายคาลงมาดูแล้วสวยงามแปลกตาดีมาก แต่ที่แตกต่างจากการตกแต่งร้านนั้นก็เพราะว่า ร้านนี้เป็นร้านขายอาหารของทุกภาย ทั้งภาคเหนือ   ภาคใต้ และภาคกลาง ที่สำคัญ ยังมีการขายอาหารแนว British Breakfast  เอาไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย

เรียกได้ว่ากวาดนักท่องเที่ยวทุกชาติและทุกภาคเลยก็ว่าได้ ส่วนรสชาติดของอาหารที่นี่ก็ไม่ธรรมดา จัดได้ว่าถูกปากทั้งสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติเลย หากใครอยากเห็นฝรั่งหล่อหล่อ ลองแวะมาทานอาหารที่นี่ดูนะคะ เพลินตาและเพลินใจ และอิ่มท้องมากเลยล่ะค่ะ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  dewabet

ไปเที่ยวอุทยานวังตะไคร้

ที่นี้นั้นมีดอกไม้และต้นไม้สวยงามมากมายตกแต่งประดับประดาไว้ค่ะ ซึ้งที่นี้นั้นได้เคยมีตำนานอยู่ถ้าถามคนที่อาศัยอยู่ที่นั้นนั่นทุกคนจะรู้ดีว่าที่นี้นั้นมีตำนานอยู่ค่ะและวันนี้เราจะมาเล่าตำนานของน้ำตกวังตระไคร้กันค่ะ  เรื่องเล่ามีอยู่ว่า เมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนมาเที่ยวที่น้ำตกเล่นอยู่ดีๆ

จากที่น้ำเป็นสีใสน้ำกลับเปลี่ยนสีเป็นน้ำที่มีสีขุ่นมากมากแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยแม้ว่าเหล่านักท่องเที่ยวจะเห็นว่าน้ำสีขุ่นแต่ก็ยังเล่นต่อไปและไม่สนใจอะไรเลยและสุดท้ายน้ำป่าก็ไหลลงมา( อย่างที่ทุกคนรู้ว่าน้ำป่าไหลเร็วมาก)เนื่องจากน้ำไหลลงมาเร็วมากทำให้เหล่านักท่องเที่ยวหนีไม่ทันทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดก็ต้องเสียชีวิตลง

เนื่องจากความที่ไม่สนใจตอนที่มีสันญาณว่าน้ำไปจะไหลลงมาจึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องตายกันทั้งหมดว่ากันว่าน้ำที่น้ำตกวังตระไคร้นั้นไหลแรงอยู่แล้วทำให้บางทีเราอาจจะล้มลงไปได้และนอกจากนั้นตรงพื้นนั้นจะมีก้อนหินก้อนใหญ่ๆอยู่เต็มไปหมดดังนั้นบางทีเวลาเราล้มลงไปหัวจะฟาดกับก้อนหินค่ะ และว่ากันว่าทุกๆปีจะต้องมีคนที่จะต้องจมน้ำตายเพื่อไปเป็นตัวตายตัวแทนของวิญญาณอีกตนที่เคยตายอยู่แล้ว ที่นี้นั้นถึงแม้ว่าที่นี้จะมีตำนานเช่นนี้แต่ความสวยของน้ำตกกลับตราตรึงใจมากกว่า

ความกลัวดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีตำนานเช่นนี้แต่ทุกคนก็ยังไปเล่นที่น้ำตกวังตระไคร้อยู่ดี ซึ้งน้ำตกที่นี้นั้นน่าไปเล่นมากมากเลยค่ะ และทุกคนเวลาที่จะกระโดดเพื่อที่จะเล่นน้ำก๋ควรจะดูที่พื้นด้วยเพราะถ้าบางทีเรากระโดดลงไปที่น้ำแล้วบางทีหัวของเราอาจจะไปโดนก้อนหินแล้วเสียชีวิตได้ดังนั้นต้องระวังนะคะ จริงๆแล้วน้ำตกนี้เกิดมาจากลำธารสองลำธาร

และหลังจากนั้นลำธารทั้งสองก็ไหลมาบรรจบกันและหลังจากนั้นเมื่อมองดูรวมๆจะเห็นว่าเป็นเหมือน้ำตกค่ะและที่นี้นั้นมีบรรยากาศธรรมชาติทำให้หลายคนตั้งชื่อน้ำตกนี้ว่า “ น้ำตกวังตระไคร้” ค่ะ

ซึ้งส่วนใหญ่ต้นไม้และดอกไม้ที่ขึ้นแถวๆน้ำตกวังตระไคร้นั้นจะเป็นดอกไม้และต้นไม้ที่ชอบน้ำค่ะ ซึ้งต้นไม้ที่ส่วนใหญ่คนจะไปถ่ายรูปด้วยนั้นจะเป็นต้นไม้ที่มีดอกไม้สีชมพูสวยสดสีสันงดงามค่ะ น่าไปมากมากเลยนะคะ ( เวลาจะไปที่นี้หรือไม่ว่าจะน้ำตกที่ไหนอย่าลืมเช็คสภาพอากาศด้วยนะคะ ) ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ

เที่ยวใกล้กรุงเทพแบบชิวๆ

สำหรับพิกัดใกล้กับกรุงเทพที่มีสถานที่ไว้ให้เล่นน้ำแบบสุดฟินนั้นเราจะต้องพูดถึงสถานที่เหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะมันหนีไม่พ้นกับ เฟื่องฟ้าแสงมณีรีสอร์ทที่เป็นที่พักพร้อมกับสวนน้ำที่เป็นขนาดย่อม และยังมีสีสันที่สดใสมาพร้อมกับสไลสเด้อให้เรานั้นได้สไลท์เล่นกันอย่างสนุกสนานอย่างจุใจ และนอกจากนั้นยังมีกิจกรรมทางน้ำให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาพักได้เล่นกันอย่างสนุกสนานไม่ว่าเป็นเรือพยักหรือล่องเรือยาง แถมบริเวณรอบๆก็ยังมีจุดที่ร่มรื่นน่าเดินทางไปถ่ายรูปอีกเพียบ

หากใครที่ไม่ได้เข้ามาพักที่นี่แต่อยากที่จะแวะมาเล่นน้ำก็สามารถทำได้นะคะเพราะว่ามีการเก็บค่าเข้าเพียงแค่คนละ 20 บาทเพียงเท่านั้นแต่ก็สามารถเล่นน้ำได้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ นั้นก็คือเวลาตั้งแต่ 9.00 น.- 17.00 น. เลยแหละคะจะเรียกได้ว่าถ้าหากไม่เหนื่อยหรือยังไม่เปื่อยก็ยังไม่ต้องกลับกันเลยทีเดียว

สำหรับสถานที่แนะนำอีกแห่งนั้นก็คือ Ardea Resort pool villa อัมพวา เพราะว่าที่นี่นอกจากจะมีเรื่องขึ้นชื่อเกี่ยวกับตลาดน้ำแล้วโดยตลาดน้ำนั้นจะมีของกิน ของฝาก ให้เรานั้นได้ไปเลือกช้อปปิ้งกันอย่างจุใจนอกจากนั้นยังมีที่พักที่แสนจะชิวให้เราได้เข้าไปพักอีกด้วย โดยเฉพาะใครก็ตามที่ชอบสถานที่ที่มีสระว่ายน้ำด้วยแล้วละก็ขอแนะนำสถานที่แห่งนี้เลยจ้า เพราะมันเป็นที่พักที่ต้องบอกว่าถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับริมแม่น้ำของอัมพะวาและละก็แต่ก็เดินเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก็ถึงแม่น้ำแล้วแหละ

สำหรับที่พักนี้บริเวณโดยรอบนั้นเป็นที่พักเก๋ๆและยังมีสระว่ายน้ำผ่านหน้าห้องทุกหลังด้วยกันเลยนะ เพราะเพียงแค่ท่านเปิดประตูออกมาก็สามารถที่จะเล่นน้ำได้ในทันทีหรือถ้าหากใครที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวกับตลาดน้ำของอัมพะวาแล้วละก็สามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่ใช้เวลาในการเดินไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วแหละ

และสถานที่ต่อไปที่เราจะนำมาฝากนั้นก็คือ Somewhere Koh Sichang สำหรับที่นี่สามารถมาเที่ยวในวันหยุดได้ชิวๆเลยโดยที่แห่งนี้อยู่บนเกาะสีชัง โดยเป็นโรงแรมที่เป็นขนาดไม่ใหญ่นักแต่สำหรับการบริการนั้นต้องบอกว่าไม่แพ้กับการบริการของโรงแรมระดับ 5 ดาวเลยนะเพราะพวกเขานั้นมีการใส่ใจทุกรายละเอียดเลยจริงๆ ทางด้านของการตกแต่งโรงแรมนั้นก็เป็นการตกแต่งงานด้วยสไสต์โคโลเนียว โดยการใช้โทนสีที่เป็นสีขาวและสีฟ้าที่เข้ากับบรรยากาศที่เป็นริมทะเล และไฮไลท์ของมันก็คือสระว่ายน้ำที่มีการแบ่งแยกระหว่างสระของเด็กและสระของผู้ใหญ่โดยที่สามารถเล่นได้อย่างสะใจกันไปเลย แถมเดินทางไม่ทะเลเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  dewabet

อยากเที่ยวแต่ไม่มีเงินทำยังไงดี

จะเห็นได้ว่าสำหรับเรื่องเงินนั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญสำหรับวัยรุ่นหรือวัยต่างๆที่ต้องการจะไปท่องเที่ยวซึ่งจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่เก็บเงินแล้วรอไปเที่ยวทีเดียวเพราะมันคงเป็นปัญหาที่คาราคาซังไปอีกนานเลยกว่าแต่ละคนนั้นจะเก็บเงินได้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ยาวนานทำให้การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักไปอย่างแน่นอน

โดยส่วนใหญ่มักจะคิดว่าจะรอเก็บเงินอยู่คงไม่ได้ไปแน่หรืออาจจะได้ไปอีกทีก็ตอนแก่ๆเลยก็ว่าได้ ดังนั้นสำหรับการไปเที่ยวแล้วควรที่จะไปในขณะที่ทำงานอยู่หรือมีกำลังทรัพย์เพียงน้อยนิดก็สามารถไปได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีความต้องการอยากออกเดินทางท่องเที่ยวแต่ก็ยังมีงบไม่น้อยซึ่งจะเห็นได้ว่าการทำงานระหว่างทริปสามารถเป็นการช่วยได้ดีเลยอ่ะโดยถ้างั้นอาจทำประกันไป จะแบ่งเป็นการเที่ยว 1 เดือนทำงาน 1 เดือนแล้วแต่ความสะดวกสำหรับตัวของท่านเองโดยหลักการเหล่านี้เหมาะกับคนที่มีแรงและมีเวลา

การทำงานที่สามารถทำให้คุณท่องเที่ยวได้นั่นก็คืองานฟรีแลนซ์ถ่ายรูปขายนักเขียน Blogger น่ะซึ่งงานเหล่านี้คือเรียกว่าสามารถเดินทางไปด้วยและท่องเที่ยวไปด้วยได้ในระหว่างทางแถมยังเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการท่องเที่ยวนั้นด้วย

การเดินทางท่องเที่ยวในไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินแพงแต่ควรที่จะมีหลักในการท่องเที่ยวมากกว่าสิ่งต่างๆล้วนอยู่ที่การวางแผนหากคุณมีการวางแผนที่ดีการท่องเที่ยวนั้นก็จะเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ไกลและใช้เงิน เพื่อการวางแผนในสถานที่เที่ยวในแต่ละที่นั้นจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนมีการเดินทางการวางแผนที่พักหรือรายจ่ายในการกินต่างๆการคำนวณ หรือเป็นการวางแผนที่ดีมาก่อนจะทำให้คุณประหยัดงบประมาณในการท่องเที่ยวได้เยอะมากมาย

เอาจริงๆแล้วตายไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปนอนโรงแรมระดับ 5 ดาวหรืออะไรก็ตามที่มันราคาแพงเพราะในความเป็นจริงแล้วคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศที่นั่นอย่างเช่นหากคุณไปนอนที่ทะเลคุณก็ไปสัมผัสกับบรรยากาศของทะเลดังนั้นการนอนโรงแรมดังๆหรูหราก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะอยู่บนทะเลซึ่งบรรยากาศมันก็ได้เช่นกันหากคุณมีงบที่น้อยก็ควรเลือกให้พอเหมาะพอควรเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของคุณจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนหลังจัดการท่องเที่ยวนั้นเอง

การกินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหรูหราแต่สำหรับสถานที่เรานั้นหากเรามีการเดินทางไปอันดับแรกก็คงจะต้องไปกินสิ่งของแปลกๆใหม่ๆที่อยู่ตามภูมิภาคเรานั้นแต่ว่าเราสามารถเลือกร้านที่มันราคาย่อมเยาว์ได้และดูจากการโปรโมทของแต่ละสถานที่ก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นคาดคะเนกับงบประมาณในการกินของเราได้ด้วยเช่นกันและสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณท่องเที่ยวโดยไม่บานปลายจัดงบประมาณของคุณมากไปกว่าเดิมสูงนั่นเอง

อาหารที่ควรไปลองเมื่อไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม

อาหารเวียดนาม หนึ่งในเสน่ห์สำคัญที่กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจที่จะไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนามแห่งนี้ เพราะอาหารเวียดนามเป็นที่รู้จักกันอย่างมากทั้งในเรื่องของการเป็นอาหารสุขภาพและมีรสชาติอร่อย ด้วยส่วนประกอบที่หลากหลายของผักสมุนไพร ซึ่งสามารถนำมาจับคู่ทานได้กับทั้งข้าวสวยร้อนๆ บะหมี่หอมๆ ซีฟู๊ดส์สดๆ เนื้อหมูและเนื้อวัว ก็เข้ากันได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ โดยอาหารเวียดนามก็สามารถหาทานได้ง่ายและหลากหลายระดับอย่างมากทั้งตั้งแต่ตามท้องถนน ร้านอาหารทั่วไป จนไปถึงภัตตาคารในโรงแรมหรู 5 ดาว

แล้วอาหารอะไรบ้างล่ะที่ต้องกินให้ได้เมื่อไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม  แน่นอนว่าเราก็มีมาแนะนำค่ะซึ่งอาหารเหล่านั้นมีดังนี้

  1. เฝอ (Pho) อาหารจานหลักยอดนิยมที่เป็นดั่งลายเซ็นของประเทศเวียดนาม เพราะสามารถกินได้ทุกมื้อเลยไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น โดยเฝอนั้นคล้ายๆกับก๋วยเตี๋ยวในไทยเรานี่ล่ะค่ะ คือเป็นเส้นบะหมี่สีขาวทำจากแป้งข้าวเจ้า กับ น้ำซุปสีใส กินคู่กับเนื้อวัวและผัก เช่น หัวหอม ต้นหอม คึ่นฉ่าย ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว โหระพา สะระแหน่ ผักแพว เป็นอาหารที่ทานได้ง่ายๆ คล่องคอ แถมสุขภาพดีอีกด้วย สามารถหาทานได้ง่ายตามท้องถนนเลยล่ะค่ะ
  2. บั๋นหมี่ (Banh Mi) หรือ แซนวิชเวียดนาม ถือเป็นอาหารเช้าที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทานง่ายและพกพาสะดวกอีกด้วย โดยบั๋นหมี่คือขนมปังฝรั่งเศสที่นำมาใส่ไส้สไตล์เวียดนาม เช่น ผักดอง หัวหอม เนย ซีอิ๊วขาว พริก ผักชี พริกไทย ผักชีลาว ในส่วนของตัวไส้ที่เป็นเนื้อสัตว์นั้นก็มีหลากหลายมากขึ้นกับร้านค้าที่ขายค่ะ มีทั้ง หมูสามชั้นย่าง ซี่โครงหมูย่าง ปลาทอดขมิ้น ไส้กรอกต้ม ไก่ตุ๋น และฯลฯ
  3. บั๊ญแส่ว (Banh Xeo) หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าขนมเบื้องญวนนี่ล่ะค่ะ  โดยมีลักษณะคล้ายแพนเค้กแต่ตัวแป้งจะบางกว่าและกรอบกว่าค่ะ บั๊ญแส่วทำจากแป้งข้าวเจ้า กะทิ และขมิ้น ในส่วนของไส้นั้นสามารถไส้ได้หลายอย่างเลยทั้งวุ้นเส้น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง หัวหอมใหญ่ ถั่วงอก และเห็ด ซึ่งสามารถหาซื้อบั๊ญแส่วมาทานได้ตามร้านแผงลอยข้างถนน ตลาดท้องถิ่น หรือตามร้านอาหารก็มีค่ะ
  4. ก๋อยกวั่น (Goi Cuon) ก็คือ เปาะเปี๊ยะสดเวียดนามค่ะ ถือเป็นอาหารพื้นบ้านและส่วนใหญ่มักจะรับประทานกันเป็นมื้อกลางวันในช่วงฤดูร้อนของเวียดนาม ไส้ก็มักจะเป็นพวกเวียดนาม เนื้อหมูสไลด์ กุ้ง โหระพา และผักกาดหอม นำมาม้วนๆด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะสด จิ้มกับซอสที่ทำมาจากพริกป่นและถั่วลิสง ถือเป็นอีกอาหารสุขภาพที่ใครหลายๆคนชอบทานกันค่ะ 

 

สนับสนุนโดย  แทงบอลออนไลน์2020

ท่องเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน

ท่องเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน

ในคืนนี้คงเป็นเพียงหนึ่งคืนที่ผู้คนจะมองเข้ามาและพบเพียงครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อดาวหาแฮลลีย์โคจรมายังโลกอีกครั้งคนที่ผมจะนึกถึงเป็นคนแรกก็คงจะเป็นพวกท่าน  ในเช้ามืดของวันรุ่งขึ้นคุณลุงและคุณป้าต้องการที่จะไปส่งผมยังจุดหมายต่อไปของผมแต่ในเวลาเช้ามืดแบบนี้ผมเลือกที่จะโบกรถด้วยตัวเองโดยเลือกที่จะให้ท่านทั้งสองได้นอนกันอย่างเต็มอิ่มจะเหมาะกว่าด้วยเวลาเพียงไม่นานกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็รับผมขึ้นมาบนรถโอกาสมีอยู่เสมอในเส้นทางของชีวิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการสร้างโอกาสของตัวเรามากกว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

กิ่วแม่ปาน เป็นเป้าหมายเดียกันของพวกเราในวันนี้ เรื่องที่สวยงามอย่างหนึ่งในการเดินทางจากแค่การโบกรถ เพื่อที่จะขึ้นมายัง กิ่วแม่ปาน และสิ่งที่ผมได้รับก็คือน้องๆที่ให้ผมอาศัยขึ้นมาบนรถนี้กลับชวนผมเที่ยวด้วยกัน นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทาง ที่ขาดไม่ได้ เมื่อเข้ามายังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน ผมก็ได้สัมผัสความสวยงามของป่าดิบชื้นแห่งนี้เป็นครั้งแรก

ระหว่างทางจะพยเห็นมอสที่ขึ้นตามต้นเฟิร์นนาพรรณกับบรรยากาศที่เย็นของดอยอินทนนท์แห่งนี้ กิ่วแม่ปานจึงเปนสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์หลายคนเส้นทางการเดินทางเป็นวง3กิโลเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ยาวจนเกินไป ผมนึกเสียดายที่คุณกับป้าไม่ได้มาเดินด้วยกันแต่ด้วยวัยเกษีนณของลุงกับข้อเข่าที่ไม่ดีแล้วการเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอากไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นัก ในป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยสายหมอกยามเช้าความเขียวขจีของมอสที่นี่และพรรณไม้เลื้อยตามต้นไม้ต่างๆทำให้สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเมืองในเทพนิยายก็ไม่ปาน

กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีกลุ่มคนทุกรูปแบบเดินทางมาท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวรวมไปถึงผู้สูงอายุทำให้เส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้กลายเป็นเส้นทางที่ครึกครื้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้คนแต่ก็ไม่เต็มไปด้วยเสียงดังโหวกเหวกจนเสียความสงบของธรรมชาติไปในครั้งแรกที่ผมได้ร็จัดกับดอยอินทนนท์สิ่งแรกที่ได้ดึงดูดผมมายังสถานที่แห่งนี้คือการมียอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้มีความสูงเกือบ2600เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าอยากเดินทางมากท่องเที่ยวที่นี่สักครั้งในชีวิตแต่เมื่อเดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งนี้แล้วผมก็เกือลจะลืมจุดสำคัญข้อนั้นไปเหมือนกันด้วยความสวยงามของเฉพาะตัวที่นี่และอากาศที่เย็นของเมืองเหนือตัวเลขที่สูงของระดับน้ำทะเลที่นี่จึงเป็นแค่ส่วนประกอบส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งสำหรับผม

 

สนับสนุนมาจาก  dewabet

ท่องเที่ยวเขาช้างเผือก

ท่องเที่ยว ที่เขาสูง เขาช้างเผือก

 ในการเดินขึ้นเขาช้างเผือกนี้บทสนทนาก็คงจะไม่พ้นสันคมมีดสันเขาที่สวยงามและหวาดเสียวไปพร้อมกันเป็นจุดไฮไลท์ของนักพิชิตเขาที่นี่และตัวผมเองด้วยเมื่อเดินมาได้สักระยะเจ้าหน้าก็ก็ได้ทำการชี้จุดตั้งแคมป์ที่ไกลลิบให้ผมดูกลุ่มต้นไม้กลางหุบเขาจุดนั้นคือจุดตั้งแคมป์ในคืนนี้เมื่อเดินมาถึงกลางทางหลายคนหยุดพักกินมื้อเที่ยงที่นี่รวมทั้งตัวผมด้วยระหว่างนั่งกินข้าวผมก็ได้มองเห็นสันคมมีดอยู่ไกลๆแต่ก็คงจะไม่ไกลเกิดกว่าที่ผมจะไปถึงได้แน่หลังจากท้องอิ่มผมก็ลุกแล้ว

เริ่มเดินทางต่อและผมก็ได้นึกถึงวันก่อนที่ผมจะได้เริ่มเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในวันที่ผมเลือนฟิดเฟซบุ๊กและผมก็พบว่าผมไม่ได้ต้องการร็เรื่องราวอะไรในนี้อย่างสนใจเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วและผมก็เกิดคำถามกับตัวเองว่าโลกของเรานั้นมีอะไรให้ทำแค่นี้เองหรอ ซึ่งแน่นอนคำตอบคือไม่แค่การเริ่มต้นที่จะลุกไปทำอะไรสักอย่างครั้งแรกที่มันผิดธรรมชาติของตัวเองมันมักจะไม่ใช่เรื่องที่เราคิดจะทำทุกวันแต่บังเอิญที่นั่นเป็นวันแรกของผมที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเลยเถิดจนมาถึงวันนี้และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดในวันไหนหลังจากนั่งพักชมเขาลูกสุดท้ายอยู่นาน

ก็ได้เวลาที่ผมจะลุกขึ้นมาเพื่อที่จะก้าวข้ามมันไปพอได้มาอยู่จุดที่ราบสูงของภูเขาแล้วถึงแดดจะเผาแรงแค่ไหนแต่ก็ยังได้ลมเหนือจากภูเขาหลังจากเดินทางมา5ชั่วโมงผมก็มาถึงจุดตั้งแคมป์ในวันนี้ซักทีเจ้าหน้าที่ให้เราพักผ่อนเกือบ2ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางไปยังสันคมมีดจุดที่สูงที่สุดและอันตรายที่สุดในเขาแห่งนี้สำหรับในการเดินขึ้นไปบนเขานั้นที่กำลังจะเดินไปที่สันคมมีดซึ่งมันก็มีความเสี่ยงอันตรายอยู่สมควรซึ่งเพราะเพียงแค่ก้าวผิดเพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งมันอาจจะหมายถึงชีวิตจากการที่ได้เข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่แล้วได้พบว่ามีปนะมาณ10%ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการที่จะขึ้นไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาช้างเผือก

โดยที่จะผ่านสันคมมีดแห่งนี้เมื่อผมได้ก้าวมาเยียบที่สันคมมีดด้วยตัวเองแล้วผมก็รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆที่มายังเขาลูกนี้เพราะสำหรับผมแล้วสันคมมีดเปรียบเสมือนลูกโดดของเขาช้างเผือกเป็นจุดที่สลัดความเหนื่อยออกแทนที่ด้วยความหวาดเสี่ยวและตื่นเต้นเมื่อผ่านสันคมมีดมาได้อย่างโล่งอกผมก็พบว่ายังต้องขึ้นเขาลูกเล็กๆอีกสองลูกความเหนื่อยกลับมาแทนที่ความหวาดเสี่ยวอีกครั้งแต่ความเหนื่อยครั้งนี้เป็นความเหนื่อยที่ใครๆก็สามารถผ่านมันไปได้เพราะจุดหมายปลายทางจุดยอดเขาที่สูงที่สุดของเขาช้างเผือก

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sagame

ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

Shopping กินเที่ยว ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

 เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดีกับตลาดน้ำ เพราทุกจังหวัดมักจะมีตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียง  ซึ่งตลาดน้ำส่วนมากมักจะเปิดขึ้นมาเพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณตลาดน้ำได้นำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านที่ได้ทำการปลูกเอาไว้มาขาย ส่วนมากตลาดน้ำที่ตั้งขึ้นมานั้นจะเป็นการสื่อถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านแถวตลาดน้ำได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งวันนี้เราจะพาไปเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดยม ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อตลาดน้ำแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว โดยที่ตลาดน้ำคลองลัดยมแห่งนี้มีคุณลุงชวน เป็นผู้เริ่มต้นเปิดโครงการตลาดน้ำนี้เป็นคนแรก

โดยมีการพายเรือนำของจากที่สวนมาขายที่คลองลัดยมแห่งนี้ ในแรกที่นี่จะมีการขายเพียงไม่กี่ร้านแต่ก็มาก็มีการขยายตลาดให้ใหญ่มากขึ้นมีการนำของมาขายเยอะขึ้น โดยปัจจุบันตลาดน้ำแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งคลอง  และจะกำหนดโซนขายของเอาไว้ 5 โซน แต่ 5 โซนที่ว่าไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าเป็นโซนเฉพาะของสินค้าอะไร

แต่ละโซนก็จะมีสินค้าที่เหมือนกับโซนอื่นอื่น เพียงแต่ที่แบ่งโซนนี้เพราะมีร้านค้าทยอยเข้ามาขายมาก จึงมีการแบ่งพื้นที่การขายกัน โดยโซนแรกเราเรียกว่าตลาดเก่า เป็นตลาดที่มีการเปิดขายครั้งแรก ที่นี่หากเรามาเดินดูของจะมีทั้งของกินของใช้เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างที่เราต้องการจะซื้อซึ่งนี่เองที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่

เพราะมีของหลากหลายให้เดินช็อปปิ้งนี่เอง  และนอกจากจะมีของขายแล้วของกินก็ยังมีเยอะอีกด้วย ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสินค้าวางเอาไว้ให้คนที่มาเดินซื้อของได้ลองกินก่อนที่จะตัดสินใจซื้อซึ่งต้องบอกเลยว่าอร่อยทุกร้านเลย และที่ขาดไม่ได้เลย

หากขาดแล้วจะไม่ใช่ตลาดน้ำเลยก็คือก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่มีลุงป้าน้าอา พายเรือมาขาย โดยจะมีการจอดเรือไว้ริมคลอง เราสามารถเรียกซื้อแล้วถือมานั่งกินตรงเก้าอีกที่เขาวางไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ อาหารที่นี่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสดอีกด้วยที่สำคัญราคาไม่แพง

และหากใครอยากเห็นการใช้ชีวิตของชาวบ้านริมคลองลัดยมแล้วละก็ ที่นี่จะมีเรือคอยบริการพาล่องลำคลองมองวิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้าน ชื่นชมความงามธรรมชาติบ้านริมคลอง  โดยจะพาล่องเรือประมาณ 50 นาที และจะคิดค่าบริการคนละ 20 บาท ซึ่งเรือลำหนึ่งสามารถนั่งได้ไม่เกิน 8 คน