วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร 

       ที่จังหวัดน่านถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีวัดเก่าแก่ยาวนานหลายร้อยปีอยู่หลายวัดเลยทีเดียวและแต่ละวัดนั้นก็อยู่พื้นที่ใกล้เคียงกันอย่างเช่นวัดภูมินทร์ซึ่งอยู่ในเขตของอำเภอเมืองเลยวัดแห่งนี้ก็มีอายุเก่าแก่มาถึง 400 กว่าปีแล้วใกล้ๆกับวัดภูมินทร์ก็ยังมีวัดมิ่งเมืองซึ่งวัดแห่งนี้ก็มีอายุเก่าแก่ยาวนานมาเช่นเดียวกันที่สำคัญวัดแห่งนี้ยังเป็นวัดที่เอาไว้ตั้งศาลหลักเมืองของจังหวัดน่านอีกด้วยทางไปไม่ไกลก็ยังมีวัดพระธาตุแช่แห้งซึ่งก็อยู่ภายในพื้นที่เดียวกันและแน่นอนว่าวัดที่เรากำลังจะพูดกันต่อมานี้ก็คือวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารซึ่งที่วัดแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดน่าน

โดยอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับวัดข้างต้นทั้ง 3 วัดในวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล  แต่ว่าจะอยู่ตรงข้ามกับแยกของวัดภูมินทร์ซึ่งจะอยู่ตัดกับถนนผากองวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมานานหลายร้อยปีแล้วว่ากันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธศักราช 1949 วัดแห่งนี้มีความสำคัญอีกวัดหนึ่งเป็นอย่างมากเพราะว่ากันว่าเป็นวัดที่เจ้าผู้ครองนครจะเอาไว้ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาซึ่งพิธีกรรมต่างๆนั้นมีหลายพิธีกรรมในการเช่นการทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาตามหลักศิลาจารึกหลักที่ 74 ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในสมัยโบราณโดยวัดแห่งนี้ว่ากันว่าสร้างขึ้น

ในสมัยของพระเจ้าปู่แข็งสำหรับใครที่ตามที่อยากจะมาท่องเที่ยวที่วัดแห่งนี้คุณจะสามารถชมความงดงามของเราเจดีย์และรูปปั้นต่างๆภายในบริเวณวัดได้ซึ่งจะมีเจดีย์ทรงลังกาสีทองอร่ามเลยเจดีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของพระอุโบสถความสวยงามของเจดีย์แห่งนี้นั้นจะมีการสร้างรูปปั้นที่เป็นรูปช้างโดยมีการสร้างไว้ครึ่งตัวทำเป็นฐานของพระอุโบสถซึ่งแต่ละตัวนั้นก็จะมี 5 เชือกนอกจากนี้ยังมีการปั้นช้างไว้ตามมุมต่างๆอีก 4 มุม

ซึ่งแต่ละมุมนั้นก็จะมี 4 เชือกอีกด้วยทำให้หากเรานัดเติมเงินช้างที่อยู่ภายในวัดแห่งนี้แล้วก็จะมีทั้งหมดหลายตัวเลยทีเดียวจึงทำให้เป็นที่มาของชื่อวัดที่ว่าวัดช้างค้ำเพราะแต่ละมุมของวัดนั้นจะมีการสร้างรูปปั้นของช้างไว้คอยค้ำจุนรวมถึงแต่ละมุมของพระอุโบสถก็มีการสร้างรูปปั้นของช้างไว้คอยคำจึงเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารนั้นมักจะเข้ามาเยี่ยมชมความงดงามของพระวิหารที่มีความงดงามและยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้านันทบุรีศรีศากยมุนีซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำริดปางประทานอภัย

ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ค่อนข้างสูงโดยมีความสูงถึง 145 เซนติเมตรและแน่นอนว่าพระพุทธรูปนี้เป็นรูป ตามเรื่องจากว่ามีการนำส่วนผสมของทองคำมาผสมในการก่อสร้างพระพุทธรูปด้วยซึ่งในการผสมทองคำเข้าไปนั้นว่ากันว่ามีมากถึง 65 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวจึงทำให้พระพุทธรูปนี่เป็นที่เลื่องลือถึงความงดงามและความสง่างามนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงมักเดินทางมากราบไหว้ขอพรและมณฑลความงดงามของวัดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก

 

 

สนับสนุนโดย  next88 slot