จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทยลาว 2

จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทยลาว 2 ตรงบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 212 

           สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆอยากจะลองไปเยี่ยมชมดูสักครั้งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหารนอกจากวัดวาอารามและน้ำตกหรือจุดชมวิวต่างๆแล้ว   ยังมีตรงบริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาว 2 ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากจะมีโอกาสได้ไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของสะพานแห่งนี้เพราะสะพานมิตรภาพไทยลาวนั้นนับได้ว่าเป็นสะพานสายประวัติศาสตร์ที่มีการสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว   อีกครั้งสะพานแห่งนี้ยังเป็นสะพานที่เสริมสร้างธุรกิจสำหรับ 4 ประเทศเรียกได้ว่าเป็นประเทศแห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่ใช้สะพานแห่งนี้ในการเชื่อมต่อทำธุรกิจร่วมกัน

         สำหรับ 4 ประเทศที่กล่าวมาเบื้องต้นก็คือประเทศไทย   ประเทศลาว    และประเทศพม่า    รวมถึงประเทศเวียดนาม    สะพานแห่งนี้มีการสร้างขึ้นมาด้วยความยาวขนาดประมาณ 1.6   กิโลเมตรด้วยกันซึ่ง เป็นการสร้างสะพานเพื่อใช้สำหรับฆ่าแม่น้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดมุกดาหารนั้นก็คือแม่น้ำโขงนั่นเองโดยสะพานแห่งนี้มีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 12 เมตรด้วยกันที่สำคัญสะพานแห่งนี้จะเปิดเส้นทางการจราจรให้รถสัญจรไปมาได้ 2 ช่องทาง 

           จุดเริ่มต้นของสะพานนั้น จะอยู่ที่บ้านสงเปลือย  ตรงบริเวณถนนชยางกูร    ส่วนอีกฟากหนึ่งของตัวสะพานนั้นจะอยู่ที่เมืองไกรสรพรหมวิหาร  ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองในจังหวัดลาวและต้องจุดใต้สะพานนี้จะอยู่ห่างจากแขวงสะหวันนะ     ไม่มากนักหากใครที่จะเดินทางไปชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่อลังการของสะพานมิตรภาพไทยลาวคุณสามารถขับรถออกจากตัวเมืองของจังหวัดมุกดาหารได้ซึ่งจะต้องใช้ระยะ เวลาในการขับรถประมาณไม่เกิน 15 นาทีเนื่องจากว่าสะพานแห่งนี้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตรจะอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมือง

             และเมื่อขับรถมาถึงคุณก็จะเห็นสะพานขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างข้ามแม่น้ำโขงเอาไว้โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยืนอยู่บนสะพานเนื่องจากว่าจะมีจุดที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมวิวบนสะพานได้เมื่อมองลงมาคุณก็จะเห็นวิวของแม่น้ำโขงซึ่งมีความสวยงามเรียกได้ว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งและเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดมุกดาหารเลยก็ว่าได้ 

           โดยปกติแล้วจุดชมวิวตรงบริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาว 2 นี้   นี้นักท่อง มักจะมาเที่ยวในช่วงเวลาเช้าตรู่เพื่อที่จะได้สัมผัสบรรยากาศในยามเช้าที่สดชื่นและเย็นสบายหรือไม่ก็มักจะมาในช่วงประมาณเย็นๆใกล้ค่ำเพื่อที่จะได้เห็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดินรับขอบฟ้าซึ่งเป็นวิวที่สวยงามมากแสงสีส้มจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะร่วงหล่นจากขอบฟ้ารับแม่น้ำโขงไปนั้นเป็นภาพที่งดงามจับตาเป็นยิ่งนัก

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบาคาร่า